ศาลปกครองยกคำร้องค้านขึ้นค่ารถเมล์ เหตุเกรงจะกระทบคุณภาพบริการ

          ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้องคัดค้านการขึ้นค่าโดยสารรถบริการสาธารณะของนายบุญชัย รุ่งเรืองไพศาลสุข ประธานเครือข่ายคัดค้านการขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะ เนื่องจากเห็นว่าหากมีคำสั่งให้ชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารสาธารณะตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางแล้วจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพการให้บริการแก่ประชาชน
          ศาลปกครองกลางพิเคราะห์แล้วเห็นว่า หากศาลมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับการขึ้นค่ารถโดยสารตามมติของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ผู้ถูกฟ้องที่ 1 ทั้งที่น้ำมันมีราคาสูงขึ้น และจะมีผลกระทบต่อคุณภาพการให้บริการเดินรถแก่ประชาชน ซึ่งจะเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐและบริการสาธารณะ
          "เมื่อมีคำสั่งทุเลาการบังคับจะเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐแล้ว ศาลจึงมีคำสั่งให้ยกคำขอของผู้ฟ้องในการกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว" คำสั่งศาลปกครองกลาง ระบุ
          คดีนี้นายบุญชัยได้ยื่นคำร้องขอให้ต่อศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อกำหมดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวระงับการปรับขึ้นค่ารถโดยสารสาธารณะตามมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เมื่อวันที่ 9 ต.ค.จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดีที่ยื่นฟ้องคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง และพล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 และ 2 ในความผิดเรื่องเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมายที่มีมติให้ขึ้นค่าโดยสารดังกล่าว
          ทั้งนี้ คณะกรรมควบคุมการขนส่งทางบกกลางมีมติให้รถโดยสาร ขสมก., รถร่วม ขสมก.และ รถมินิบัส ปรับค่าโดยสารสำหรับรถร้อนอีก 50 สตางค์ รถปรับอากาศปรับขึ้นระยะละ 1 บาท ส่วนรถ บขส.และ รถร่วม บขส.ปรับขึ้นกิโลเมตรละ 3 สตางค์ ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนของ ขสมก.และ บขส.มีมติที่จะตรึงค่าโดยสารเท่าเดิมออกไปอีก 3 เดือน(15 ต.ค.50-15 ม.ค.51)