นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรณีเกิดเพลิงไหม้บริษัท ฟลอรอลแมนูแฟคเจอริ่ง กรุ๊ป จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โซน 3 ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. ซึ่งประกอบกิจการผลิตแชมพู สบู่ เจลอาบน้ำ โลชั่นทาผิว แอลกอฮอล์ และเจลล้างมือ เมื่อช่วงเย็นวาน (6 ก.ค.) นั้น ได้สั่งการให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมดูแลผลกระทบคุณภาพชีวิตของชุมชน และผู้ประกอบการโรงงาน โดยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ด้าน นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า โรงงานดังกล่าวฯ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ หรือประมาณ 7,960 ตารางเมตร มีพนักงานประมาณ 130 คน โดยเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นบริเวณคลังเก็บสินค้าและวัตถุดิบ ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังได้ประสานไปยังสถานีดับเพลิง และนักผจญเพลิง ให้เข้าดำเนินการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน โดยสามารถควบคุมเพลิงได้ภายใน 3 ชั่วโมง (เวลา 20.13 น.) จุดเกิดเหตุเป็นอาคาร 2 ชั้น ด้านข้างมีถังเก็บสารเคมีกลุ่มแอลกอฮอล์ประมาณ 70,000 ลิตร ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ ต้องรอให้มีการตรวจสอบรายละเอียดก่อน
สำหรับน้ำที่ใช้ระงับเหตุเพลิงไหม้ กนอ.ได้ทำการปิดกั้นลำรางระบายน้ำฝนภายในและบริเวณโดยรอบโรงงาน เพื่อป้องกันไม่ให้รั่วไหลออกสู่ภายนอก และให้บริษัทฯ เร่งบำบัดให้ได้ตามมาตรฐานที่ กนอ.กำหนดต่อไป
โดย กนอ.อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 สั่งการให้บริษัทฯ หยุดประกอบกิจการและปรับปรุงแก้ไขโรงงาน ซึ่งหลังจากนี้บริษัทฯ ต้องยื่นเอกสารแสดงผลการปรับปรุงอาคารโรงงาน และตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างอาคารและตรวจสอบความปลอดภัยของระบบอุปกรณ์ภายในโรงงาน ที่ต้องผ่านการรับรองจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญ และจัดส่งให้ กนอ. พิจารณาตรวจสอบก่อน
อย่างไรก็ตาม หลังสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ผู้ว่าการ กนอ.ได้เรียกประชุมย่อยผู้เกี่ยวข้องในทันที หลังลงพื้นที่สังเกตการณ์ พร้อมสั่งการให้เร่งทบทวนมาตรการป้องกันต่างๆ ที่เกี่ยวข้องโดยด่วน ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีกต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและเกิดความเสียหายให้น้อยที่สุด เนื่องจากสิ่งที่ดำเนินการอยู่นั้น อาจยังไม่เพียงพอกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ต้องมีการตรวจสอบด้วยว่ายังสามารถใช้งานได้อย่างปกติ และมีเพียงพอหรือไม่ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจกับให้ชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมอีกด้วย และช่วงบ่ายวันนี้ ผู้ว่าการ กนอ.จะลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายพื้นที่ไฟไหม้อีกครั้ง