นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) ยืนยันดีลเจรจาซื้อวัคซีนโควิดของ BioNTech ในเยอรมันจำนวน 20 ล้านโดส ขณะนี้ตนเองและที่ปรึกษาทางกฎหมายระดับโลกแห่งหนึ่งอยู่ระหว่างตรวจทานร่างสัญญาเพื่อให้เกิดความรอบคอบจึงต้องใช้ระยะเวลาอ่านและตรวจสอบข้อกฎหมายต่าง ๆ ระยะหนึ่ง ก่อนจะลงนามในและส่งไปให้ทาง BioNTech ที่เยอรมันอย่างช้าภายในวันพรุ่งนี้ตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งห่างจากเวลาที่เยอรมันประมาณ 6 ชั่วโมง
สำหรับหน่วยงานภาครัฐที่จะเข้ามาเป็นตัวกลางในการนำเข้าวัคซีน BioNTech ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ขณะนี้ เพราะถูกร้องขอไว้ แต่จะมีการระบุชื่อหน่วยงานดังกล่าวในสัญญาที่จะทำกับ BioNTech ในฐานะที่จะเข้ามาเป็นตัวกลางในการนำเข้าวัคซีน โดยคาดว่าหน่วยงานดังกล่าวจะออกมาเปิดเผยเอง และยังคงยืนยันตามเดิมว่าวัคซีน BioNTech ล็อตแรกจะเข้ามาในปลายเดือนก.ค.นี้ 5 ล้านโดสตามที่ได้เคยเปิดเผยไปก่อนหน้านี้
"ตอนนี้กำลังอ่านสัญญาอยู่กับบริษัทที่ปรึกษากฎหมาย เพิ่งได้สัญญามาตอนบ่าย 4 โมงกว่านี้เอง กำลังทยอยอ่านและตรวจสัญญาร่วมกับที่ปรึกษากฎหมายอยู่ ยืนยันว่าดีลนี้เป็นดีลจริง แต่ที่ทาง BioNTech ปฏิเสธมาคงเป็นเรื่องกฎหมาย เพราะทั่วโลกเขารู้ว่าดีลวัคซีนเป็น G2G แต่เรากับเขาเป็นเอกชน...เราได้สัญญามาแล้ว เย็นนี้ถึงคืนนี้ก็อ่านสัญญา ถ้าไม่มีอะไรแก้ไขเราก็เซ็นและส่งกลับไปเยอรมันพรุ่งนี้ไม่ช่วงสายก็บ่าย เพราะเยอรมันเวลาห่างจากไทย 6 ชั่วโมง"นายบุญ กล่าว
ส่วนข้อมูลของ BioNTech แม้ว่าจะเป็นวัคซีน mRNA ที่ร่วมกันพัฒนากับไฟเซอร์ แต่เป็นคนละบริษัทกัน โดยที่ BioNTech เป็นบริษัทที่มีการพัฒนาวัคซีนแบบ mRNA มาก่อน และทางไฟเซอร์ของสหรัฐฯได้เข้ามาร่วมมือ ซึ่งทางเอกชนไม่สามารถนำเข้าวัคซีนของไฟเซอร์ได้เอง เพราะเป็นวัคซีนที่ภาครัฐจะจัดหา แต่สามารถนำเข้าวัคซีน BioNTech ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกได้ แต่ต้องมีหน่วยงานภาครัฐที่มีสิทธิในการนำเข้าเข้ามาร่วมกับภาคเอกชน
นพ.บุญ กล่าวว่า การออกมาเปิดเผยดีลการนำเข้าวัคซีนทางเลือกไม่ได้สร้างข่าวขึ้นมา เพราะเป็นดีลที่เกิดขึ้นจริง และไม่มีความจำเป็นที่ต้องออกข่าวมาเพื่อปั่นหุ้น THG โดยมองว่าไม่มีประโยชน์ และอยากให้ราคาหุ้นของ THG เป็นไปตามธรรมชาติ ขณะที่ดีลนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการเร่งการจัดหาวัคซีนเข้ามาเพื่อฉีดให้กับประชาชนและลูกค้าของโรงพยาบาลธนบุรีในการป้องกันโควิด-19