พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) ยืนยันว่า การที่กองทัพอากาศพิจารณาจัดซื้อเครื่องบินขับไล่เอนกประสงค์แบบ JAS-39 Gripen จากประเทศสวีเดนกว่า 3.44 หมื่นล้านบาท มาทดแทนฝูงบินเดิม ถือว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ภาคใต้และทะเลอันดามัน โดยจะนำเครื่องบินดังกล่าวไปประจำการที่ฝูงบินที่ 7 จ.สุราษฎร์ธานี
เครื่องบินรุ่นดังกล่าวจะมาใช้ทดแทนเครื่องบินขับไล่ F 5 E ที่จะปลดประจำการภายใน 2 ปีนี้โดยคำนึงถึงหลักการทั้งด้านความทันสมัย ความเหมาะสมกับสภาพยุทธศาสตร์การป้องกันทางอากาศร่วมกับเหล่าทัพอื่น รวมทั้งสามารถเป็นพื้นฐานสำหรับการพัฒนาของกองทัพอากาศเอง
"เราต้องคำนึงถึงเครื่องบินที่เรามีอยู่ แล้วก็เราได้ดำเนินการเรื่องนี้มาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ได้เสนอเรื่องผ่านกระทรวงกลาโหมไปเพื่อขอความเห็นชอบ จะขอเริ่มโครงการการจัดหาเครื่องบินขับไล่เริ่มตั้งแต่ปี 51 เพื่อให้ทันการปลดประจำการเครื่องบินที่สุราษฎร์ธานี ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ อ่าวไทย กับทะเลอันดามัน" ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าว
สำหรับการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่เอนกประสงค์จากสวีเดน แบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรกจำนวน 6 ลำ วงเงินรวม 1.9 หมื่นล้านบาท เป็นงบประมาณผูกพันระหว่างปี 51-55 และระยะที่ 2 อีก 6 ลำ วงเงินรวม 1.54 หมื่นล้านบาท เป็นงบประมาณผูกพันระหว่างปี 56-60
พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า กองทัพอากาศเริ่มโครงการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 46 และเตรียมแผนงานไว้ตั้งแต่ปี 49 แต่ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณจึงต้องเลื่อนการดำเนินงานมาเป็นปี 51 อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ทันในรัฐบาลชุดนี้
ส่วนการจัดหาเครื่องบินขับไล่ระยะที่ 2 อีก 6 ลำนั้นสามารถดำเนินการได้หลังจากที่เครื่องบินระยะที่ 1 เข้าประจำการแล้ว 2-3 ปี แต่ขึ้นอยู่กับความเห็นของรัฐบาลและสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้น พร้อมยืนยันว่ากองทัพอากาศจะใช้เงินภาษีของประชาชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--