นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ที่เป็นวงกว้าง การตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคโควิด-19 จึงถือเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุม ป้องกันการระบาดของโรค ซึ่งที่ผ่านมากรม สบส.ได้รับข้อร้องเรียนจำนวนมากถึงกรณีที่โรงพยาบาลเอกชน หรือคลินิกไม่ส่งผลตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้กับผู้รับบริการ ส่งผลให้ผู้รับบริการที่ไม่ได้รับผลตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต้องประสบกับปัญหาในการหาสถานพยาบาลหรือเตียงรักษาจากการที่ไม่มีผลตรวจยืนยัน
ดังนั้น เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตราย และเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ได้เข้ารับการรักษาพยาบาลจากสถานพยาบาลอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ กรม สบส.จึงขอเน้นย้ำให้โรงพยาบาลเอกชน และคลินิกที่เปิดให้บริการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะต้องดำเนินการส่งผลตรวจคัดกรองฯ ให้กับผู้รับบริการทุกราย ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ตามมาตรา 32 (3) ในฐานไม่แสดงข้อมูลตามที่สิทธิผู้ป่วยกำหนด ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้น กรม สบส.ได้มีการจัดส่งหนังสือแจ้งเวียนถึงผู้รับอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ดำเนินการส่งผลตรวจให้ผู้รับบริการทุกรายมิให้มีการตกหล่นแล้ว หากผู้รับบริการรายใดที่ยังไม่ได้รับผลการตรวจคัดกรองฯ ก็ขอให้ติดต่อสอบถามไปยังสถานพยาบาลเอกชนที่ตนเข้ารับบริการเพื่อขอทราบช่วงเวลาที่สถานพยาบาลจะส่งผลตรวจให้ แต่หากมีการติดต่อสอบถามแล้วสถานพยาบาลดังกล่าวยังปล่อยปละละเลยไม่ส่งผลตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้ผู้รับบริการก็สามารถร้องเรียนไดที่สายด่วน 1426 กรม สบส. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป