น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักการส่งเสริมการใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังไม่มีอาการ เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษาและลดภาระระบบสาธารณสุข ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ซึ่งที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการมาตรการเชิงป้องกันความรุนแรงของโรคโควิด-19 ด้วยการใช้ยาฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ที่มีศักยภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสเข้าสู่เซลล์และลดการแบ่งตัวของไวรัส ใช้รักษาในกลุ่มผู้ต้องขังที่มีอาการไม่รุนแรง จำนวน 1.18 หมื่นคน พบว่าได้ผลดี สามารถรักษาผู้ต้องขังหายแล้ว 99.02% จากยอดผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19
ปัจจุบัน กระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ ปลูกสมุนไพรประเภทต่างๆ โดยเน้นการปลูกฟ้าทะลายโจร และกระชายขาวเป็นหลัก ในพื้นที่ 141 ไร่ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นเพื่อช่วยผู้ต้องขังในเรือนจำที่ติดเชื้อโควิค-19 และโรคอื่นๆ รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับประชาชนทั่วไปด้วย
น.ส.รัชดา กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ครม.ยังได้กำชับถึงการส่งเสริมใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังไม่มีอาการ จะต้องชี้แจงแนวทางให้ชัดเจน เช่น แนวทางการรักษา ปริมาณยาที่เหมาะสมต่ออาการของผู้ป่วย ข้อควรระวัง อาการข้างเคียง แนวทางการผลิตและจัดจำหน่าย เป็นต้น ซึ่งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าปริมาณยาฟ้าทะลายโจรที่เหมาะสม จะต้องมีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ที่ผู้ป่วยควรได้รับปริมาณ 180 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งเป็น 60 มิลลิกรัมต่อมื้ออาหาร จึงจะได้ผลชัดเจน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ พิจารณาหาแนวทางมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้มีการกักตุนสินค้ายาฟ้าทะลายโจร ตลอดจนควบคุมราคาของยาฟ้าทะลายโจรและสมุนไพรอื่นๆ ให้มีความเหมาะสม และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน