รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ประชุมร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงบ่ายวันนี้
ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้รายงานการให้บริการฉีดวัคซีนให้ประชาชน 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มคนอ้วนและผู้มีโรคเสี่ยง ผู้หญิงตั้งครรภ์ที่ให้บริการฉีดไปแล้ว 1 ล้านโดส
จากนั้นที่ประชุมได้มีมติปรับแนวทางการบริหารจัดการสถานีกลางบางซื่อ โดยตั้งแต่วันที่ 1-31 ส.ค.นี้ จะไม่มีการเปิดให้วอล์คอินเข้ามาใช้บริการ แต่จะต้องลงทะเบียนผ่านแอพพิเคชั่น "วัคซีนบางซื่อ" เพื่อให้สามารถฉีดได้ทันทีที่ไปถึง โดยจะให้บริการวัคซีน 20,000 โดสต่อวัน
พร้อมทั้งมีการเสริมมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยประสานให้ทางกระทรวงกลาโหมเข้ามาช่วยดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป รวมถึงมีการปรับรูปแบบไม่ต้องมีการวัดความดันก่อนฉีดวัคซีน นอกจากกรณีมีความจำเป็น เพื่อลดปัญหาความแออัดในสถานีกลางบางซื่อ พร้อมทั้งให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการหารือเรื่องการย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลบุษราคัม ที่เมืองทองธานีไปยังอาคารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงกลางเดือนตุลาคม หลังจากหมดสัญญากับทางเมืองทองธานีในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งที่อาคารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะรองรับผู้ป่วยระดับสีเหลืองขึ้นไป และมีการเตรียมเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยสีแดง 3,000 เตียง
รายงานข่าว เปิดเผยอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับที่ประชุมว่า แนวปฏิบัติใหม่ๆ ทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วจากกระทรวงสาธารณสุข และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง ที่ได้รับนโยบายไปแล้ว ซึ่งตนเองให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคน และอยากฟังความคิดเห็นของทุกคน ซึ่งหากติดขัดตรงไหนก็ให้บอกมา พร้อมแก้ปัญหาและดูแลให้