นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 1-3 ส.ค.นี้ รองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สมาพันธรัฐสวิส มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ และมีกำหนดเข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ,นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข โดยจะมีการหารือความร่วมมือด้านสาธารณสุข การค้าและการลงทุน การลดก๊าซเรือนกระจก เป็นต้นในระหว่างที่พำนักในไทยจะปฎิบัติตามมาตรการของไทยอย่างเคร่งครัด
การเยือนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการฉลองการครบรอบ 90 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สวิส ในปี 64
นอกจากนี้ ทางสมาพันธรัฐสวิสยังได้มอบเครื่องช่วยหายใจ จำนวน 102 เครื่อง และชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบเร็ว (Rapid Antigen Test) จำนวน 1.1 ล้านชุด ให้กับรัฐบาลไทยด้วย ซึ่งขณะนี้อุปกรณ์ทั้งหมดได้เดินทางถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
ด้านน.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เป็นผู้แทนรัฐบาลไทย ในการรับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งรัฐบาลสมาพันธรัฐสวิส บริจาคแก่รัฐบาลไทย ประกอบด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit จำนวน 1.1 ล้านชุด และ Ventilator(เครื่องช่วยหายใจ) จำนวน 102 เครื่อง โดยขนส่งมาในเที่ยวบินที่ LX180 สายการบิน SWISS Air ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) เมื่อ เวลา 05:20 น. ของช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมีนางเฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทิเอดา (H.E. Mrs. Helene Budliger Artieda) เอกอัครราชทูตสวิสเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนในการมอบ
โดยชุดตรวจ Rapid Antigen Test ที่ได้รับทั้งหมดจะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะใช้แจกจ่ายแก่ประชาชน และเป็นอุปกรณ์ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในการดำเนินการตรวจเชิงรุกในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่เครื่องช่วยหายใจจะกระจายไปยังโรงพยาบาลที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์ต่อไป
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากชุดตรวจ Antigen Test Kit ที่ได้รับบริจาคแล้ว รัฐบาลยังอยู่ระหว่างการจัดหาชุดตรวจอีก 8.5 ล้านชุดเพื่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ด สปสช.) ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธาน ครั้งที่ 8/2564 (วาระพิเศษ) เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2564 ได้อนุมัติการจัดหาภายใต้วงเงิน 1,014 ล้านบาท โดยขณะนี้กรมควบคุมโรคกำลังวางแผนจะกระจายชุดตรวจให้ประชาชนได้ใช้ต่อไป