พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม (กห.) เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหมและ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดก.กลาโหม ประชุมติดตามการสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาวิกฤตโควิด 19 ร่วมกับ กอ.รมน. นขต.กห. เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC โดยภาพรวมฝ่ายความมั่นคง ยังคงจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ ก.ค.63 ถึงปัจจุบัน จับกุมได้ถึง 44,168 คน พื้นที่ชายแดน 33,576 คน และพื้นที่ชั้นใน 10,592 คน เป็นผู้นำพา 411 คน โดย ก.ค.ที่ผ่านมาจับกุมได้กว่า 4,300 คน
จากการประเมินสถานการณ์ในเมียนมา ทั้งสภาพเศรษฐกิจ ความรุนแรงที่ยังมีอยู่ และผู้ป่วยโควิดที่ติดเชื้อสะสมมากขึ้นต่อเนื่อง มีความน่าเป็นกังวลและต้องเฝ้าระวังอย่างมากกับแนวชายแดนติดกันที่ยาวถึง 2,401 กม. โดยขณะนี้ ฝ่ายความมั่นคง ได้หารือร่วมเสริมกำลังและเตรียมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ จว.ชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กองกำลังป้องกันชายแดนด้านตะวันออก ยังคงร่วมกันเฝ้าระวังเข้มข้นเช่นกัน กับยอดผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวกัมพูชาและลาวที่พบมากขึ้น
สำหรับการติดตามช่วยเหลือประชาชนในวิกฤตโควิด กำลังทหาร ตำรวจ ได้จัดกำลังเข้าไปเสริมการทำงานในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จว.มากขึ้นต่อเนื่อง เพื่อนำผู้ป่วยติดเชื้อที่มีมากและอาจติดค้างตามบ้านไม่ได้รับการดูแล นำออกสู่ระบบการรักษาให้มากที่สุด ผ่านการติดต่อ "ศูนย์การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย" และ "จุดบริการประชาชน" ที่กระจายกำลังลงจัดตั้งในพื้นที่ชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ กำลังทหารและตำรวจ ได้พยายามสนับสนุน กทม.ให้สามารถจัดตั้งและบริหารจัดการพื้นที่แยกพักรักษาตัวในชุมชน ( Community Isolation ) ให้ได้อย่างน้อย 1 แห่งในทุกเขต เพื่อลดปัญหาคอขวดเปิดพื้นที่นำผู้ป่วยสีเขียวตามบ้านแยกออกมาเข้ารับการดูแลรักษาตามระดับอาการ โดยสนับสนุนการทำงานร่วมกับ รพ.สนามที่มีจำกัด อย่างไรก็ตาม กองทัพ อยู่ระหว่างเร่งเสริมขีดความสามารถ รพ.สนามของทุกเหล่าทัพที่มีอยู่ 29 แห่ง และเตรียมจัดตั้งเพิ่มโดยประสานทำงานร่วมกับสาธารณสุขในแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งเร่งจัดตั้ง CI ในหน่วยทหาร เพื่อสนับสนุนดูแลชุมชนโดยรอบ
พล.อ.ชัยชาญ ย้ำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้แสดงความขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ทหาร ตำรวจทุกคน ที่ร่วมกันเป็นด่านหน้าช่วยเหลือดูแลประชาชนรับมือกับวิกฤตโควิดที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมา พร้อมย้ำ ให้กองกำลังป้องกันชายแดนทุกเหล่าทัพและตำรวจ ประสานทำงานร่วมกับฝ่ายปกครองเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินชายแดนที่อาจเกิดขึ้น โดยตั้งอยู่ในความไม่ประมาท พร้อมทั้ง ขอให้ระดมทรัพยากรเร่งสนับสนุนทุกจังหวัดให้สามารถจัดตั้ง รพ.สนามเพิ่มเติม และพื้นที่แยกพักรักษาตัวในชุมชน ( Community Isolation ) ให้เพียงพอรองรับการดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อในพื้นที่สีแดงเข้มเป็นการเร่งด่วนให้มากที่สุด โดยเฉพาะ กทม.
พร้อมกันนี้ พล.อ.ชัยชาญ ได้กำชับ ขอให้ทุกเหล่าทัพ เร่งขยายขีดความสามารถของ รพ.หน่วยทหาร ให้สามารถรองรับผู้ป่วยสีแดงและเหลืองได้มากขึ้น พร้อมทั้ง ขอให้ช่องทางสายด่วน 1138 ที่จัดตั้งขึ้น ทำงานร่วมกับ "จุดบริการประชาชน" ที่กระจายอยู่ในพื้นที่ เปิดช่องทางสื่อสารลงถึงผู้นำชุมชน ช่วยกันจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว รุกเข้าไปช่วยเหลือประชาชนให้ทั่วถึงและทันกับความต้องการ พร้อมกันนี้ ขอให้ทุกเหล่าทัพ ช่วยเหลือเกษตรกร เก็บคัดแยก ขนส่ง รวมทั้งรับซื้อและกระจายพืชผลการเกษตร โดยเฉพาะมังคุดจากภาคใต้ ที่เริ่มมีปัญหาล้นตลาด ซึ่งกองทัพได้สนับสนุนสนุนรับซื้อแล้ว 168 ตัน เพื่อร่วมช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนกันและกัน