พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) สั่งการให้ทุกหน่วยงานภายใต้ กอนช.ติดตามประเมินสถานการณ์ฝนในช่วงครึ่งหลังของฤดูอย่างใกล้ชิด หลังได้รับรายงานการคาดการณ์ฝนล่วงหน้าของกรมอุตุนิยมวิทยาว่าเดือน ส.ค.จะมีปริมาณฝนน้อยกว่าปกติจนถึงปลายเดือน ส่วนเดือน ก.ย.จะมีปริมาณฝนมากกว่าปกติ ยกเว้นภาคตะวันออก ขณะที่เดือน ต.ค.จะมีปริมาณฝนมากกว่าปกติค่อนข้างมากในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้
ดังนั้นนอกเหนือจาก 10 มาตรการรับมือฤดูฝนที่ได้สั่งการไปแล้ว ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเน้นให้มีการดำเนินการลงไปถึงในพื้นที่เฉพาะเพิ่มเติมประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่
1.ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. ขอให้หน่วยงานปฏิบัติปรับแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ พยายามเก็บกับน้ำไว้เป็นน้ำต้นทุนในช่วงฤดูแล้ง ทั้งในอ่างเก็บน้ำ แก้มลิง และในแหล่งน้ำสาธารณะ
2.ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. ให้ความสำคัญเกี่ยวกับภัยที่จะเกิดจากฝนตกหนัก ทั้งในเรื่องน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มในพื้นที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลาดชัน และปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เฉพาะ ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก โดยใช้กลไกการทำงานร่วมกับคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงกรุงเทพฯ เร่งสำรวจลงในรายละเอียดในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจะเกิดน้ำหลาก ดินถล่ม และน้ำท่วมขัง
โดยจำแนกพื้นเสี่ยงภัยออกเป็น พื้นที่เศรษฐกิจและที่อยู่อาศัยของชุมชนเมือง ชุมชนชนบท และพื้นที่เกษตร พร้อมทั้งให้เตรียมความพร้อมและกำหนดมาตรการที่จะรองรับภัยในพื้นที่เฉพาะนั้นๆ ให้เกิดความชัดเจนเป็นรูปธรรมด้วย โดยเฉพาะในช่วงเดือน ส.ค.ต่อเนื่องถึง ก.ย.ยนขอให้เน้นย้ำการเตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำพื้นที่กรุงเทพฯ ให้มีการวางแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมรอการระบายอย่างเข้มข้น อาทิ การตรวจสอบอุโมงค์ระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ ให้พร้อมใช้งาน และการลดระดับน้ำในคลองต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับควบคุมอยู่เสมอ ส่วนในพื้นที่ภาคใต้ให้เตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยในเดือน พ.ย.-ธ.ค.
3.มอบหมายให้ สทนช. ติดตามผลการสำรวจและการเตรียมความพร้อมฯ ของทุกจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพฯ อย่างใกล้ชิด และติดตามวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์หากมีโอกาสเกิดอุทกภัยเป็นวงกว้างครอบคลุมมากกว่า 1 จังหวัด ต้องประสานบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยวางแผนเตรียมรับสถานการณ์ที่คาดว่ามีความรุนแรงจะเกิดขึ้น เพื่อป้องกันผลกระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด
4.นอกจากฝนที่จะตกตามฤดูกาลที่มีโอกาสมากกว่าปกติแล้ว ขอให้ กอนช.ติดตามสถานการณ์พายุในช่วงปลายฤดูยังมีโอกาสเกิดพายุโซนร้อน ทั้งในมหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย ตามที่ได้มีการคาดการณ์ว่าว่าจะมีอย่างน้อย 2-3 ลูกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้หน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมวางแผนเชิงป้องกัน การแจ้งเตือน การอพยพเคลื่อนย้าย และลดผลกระทบต่อชีวิต ทรัพย์สินของประชาชนล่วงหน้าได้ทันต่อสถานการณ์ด้วย