นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 จากเชื้อสายพันธุ์เดลตา ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่พบผู้ป่วยจำนวนมากรวมทั้งในต่างจังหวัดจากผู้ป่วยที่เดินทางกลับไปรักษาที่บ้าน ซึ่งวันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่กว่า 20,000 ราย จึงต้องเร่งดำเนินการค้นหา คัดกรองผู้ติดเชื้อ โดยมีทีมปฏิบัติการสอบสวนโรค (Operation) ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัด และกทม. เพื่อค้นหาผู้ป่วยเพิ่ม และแยกผู้สัมผัสเสี่ยงสูง/เสี่ยงต่ำ ให้เข้าระบบการเฝ้าระวัง ควบคุมการแพร่กระจายเชื้อให้อยู่ในวงจำกัดโดยเร็วที่สุด
สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตนเองด้วยชุด Antigen Test Kit (ATK) เป็นการตรวจหาเชื้อเบื้องต้นที่ช่วยให้รู้ผลได้เร็วขึ้น เพื่อให้ผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาได้อย่างรวดเร็วเป็นไปตามแนวทางของกรมการแพทย์ โดยหากผล ATK เป็นบวก เรียกว่าผู้ติดเชื้อเข้าข่าย สามารถรับยาและรักษาแบบแยกกักตัวที่บ้านได้ทันที หากต้องเข้าแยกกักตัวในชุมชน หรือในสถานพยาบาล ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายควรได้รับการตรวจด้วยวิธี RT-PCR คู่ขนาน และระหว่างรอผลตรวจยืนยันจะต้องพยายามแยกออกจากผู้ป่วยโควิด-19 เนื่องจากผลตรวจด้วย ATK ให้ผลบวกลวงได้ 3-5%
นอกจากนี้กรมควบคุมโรคได้เร่งกระจายวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆ ตามการจัดสรรของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ โดยในเดือนส.ค.นี้ จะทยอยส่งวัคซีนให้จังหวัดจำนวน 10 ล้านโดส เพื่อฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และเพิ่มกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปที่มีโรคประจำตัว เพื่อลดอาการป่วยที่รุนแรง และลดอัตราการเสียชีวิต รวมทั้งฉีดให้กับกลุ่มบุคลากรการแพทย์และบุคลากรด่านหน้า ซึ่งจะจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ไปให้แต่ละจังหวัดในสัปดาห์นี้