ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20,920 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 17,312 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 3,338 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 262 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 8 ราย มาจากสหราชอาณาจักร 3 ราย ในโครงการ Samui Plus และ Phuket Sandbox, กัมพูชา 2 ราย, เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศละ 1 ราย ในโครงการ Phuket Sandbox และเมียนมา 1 ราย
- เสียชีวิต 160 ราย เพศชาย 90 ราย เพศหญิง 70 ราย อายุเฉลี่ย 12-95 ปี (ค่ากลาง 63 ปี) โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังเป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว จากกทม. 78 ราย ขณะที่ต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นตลอด
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 693,305 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 473,732 ราย เพิ่มขึ้น 17,926 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 5,663 ราย
ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพฯ 4,140 ราย, สมุทรปราการ 1,326 ราย, ชลบุรี 1,311 ราย, สมุทรสาคร 1,279 ราย, นนทบุรี 754 ราย, นครราชสีมา 565 ราย, สระบุรี 494 ราย, ปทุมธานี 463 ราย, ฉะเชิงเทรา 449 ราย, พระนครศรีอยุธยา 427 ราย
วันนี้พบคลัสเตอร์ใหม่เพิ่มขึ้น ที่ จ.สมุทรปราการ ที่โรงงานหล่อโลหะ อ.บางพลี จำนวน 29 ราย และที่บริษัทผลิตพรม อ.พระประแดง จำนวน 12 ราย, จ.ชลบุรี ที่บริษัทลวดสายไฟ อ.ศรีราชา จำนวน 18 ราย และที่โรงงานโลหะ อ.เมือง จำนวน 13 ราย, จ.สมุทรสาคร ที่โรงงานห้องเย็น อ.เมือง จำนวน 63 ราย และที่บริษัทกล่องกระดาษ อ.เมือง จำนวน 45 ราย, จ.พระนครศรีอยุธยา ที่คลังสินค้า อ.วังน้อย จำนวน 19 ราย, จ.ภูเก็ต ที่แพปลา อ.เมือง จำนวน 18 ราย
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. เปิดเผยว่า สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ที่จะฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์เข็ม 3 ได้มีการจัดส่งให้โรงพยาบาลต่างๆแล้ว ซึ่งในกรุงเทพฯประกอบด้วย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาการุณย์ โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันบำราศนราดูร และในส่วนโรงพยาบาลต่างจังหวัดจะส่งไปที่โรงพยาบาลพุทธโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา โรงพยาบาลนครนายก โรงพยาบาลสระบุรี และโรงพยาบาลระยอง
ส่วนกลุ่มนักเรียนไทยที่จำเป็นจะต้องเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ และเข้าข่ายที่ต้องฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ต้องมีการสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อลงทะเบียน โดยจะมีอีเมล์ยืนยันการเข้ารับฉีดวัคซีน จากนั้นจะมีการยืนยันนัดหมายโดยส่งเป็นเอสเอ็มเอสกลับไปที่เบอร์โทรศัพท์ จึงขอให้รีบลงทะเบียนโดยด่วน
พญ.อภิสมัย กล่าวถึง กรณีที่ประชาชนมีความต้องการจะไปตรวจ Rapid Antigen Test ที่สถานพยาบาลต่างๆ นั้น ทางศบค.ได้ร่วมกับ Tech For Thailand รวบรวมสถานที่ตรวจโควิด-19 ที่ยังให้บริการ โดยสามารถเข้าเว็บไซต์ Koncovid.com เพื่อเข้าไปค้นหาสถานที่โควิด-19 ทั่วประเทศไทยหรือในกรุงเทพฯ โดยหากจะไปตรวจในสถานที่ใกล้บ้าน ให้พิมพ์รหัสไปรษณีย์ ก็จะปรากฏสถานที่ตรวจ หรือกดไปที่จุดสีแต่ละจุดในแผนที่ก็จะแสดงข้อมูลของจุดตรวจ เช่น สีแดงในบางแห่งอาจเป็นเป็นศูนย์หรือแล็บงานวิจัยที่ไม่ได้เปิดให้ประชาชนเข้าไปตรวจได้ ส่วนสีเขียวเป็นโรงพยาบาลของภาครัฐ เป็นต้น
ทั้งนี้ แม้ในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนแม้มีศักยภาพที่จะตรวจได้ แต่ก็ภาระที่จะต้องตรวจในกรณีอื่นๆ เช่น จะต้องมีการคัดกรองผู้ป่วยเข้ารับบริการผ่าตัด คลอดลูก หรือเข้าไอซียู เป็นต้น ซึ่งแต่ละโรงพยาบาลจะต้องมีการตรวจอยู่แล้วเกิน 300 รายต่อวัน จึงทำให้บางโรงพยาบาลต้องปฏิเสธไม่สามารถรับผู้ป่วยโควิดได้ เพราะภาระหน้างานที่หลายโรงพยาบาลดำเนินการอยู่ต้องช่วยรับผู้ป่วยโควิดด้วย จึงแนะนำให้ประชาชนโทรศัพท์ไปสอบถามก่อนเสมอ
พญ.อภิสมัย ยังได้เน้นย้ำว่า เบอร์ 1330 ของสปสช.จะเป็นเบอร์หลักในการจัดการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อนำเข้าระบบ ส่วนเบอร์โทรศัพท์ 1668 และ 1669 ขอสงวนไว้เป็นสายด่วน เพื่อช่วยชีวิตและช่วยลดความหนาแน่นผู้ป่วยโควิด-19 ในระดับสีแดง และในกรุงเทพฯจะมีเบอร์โทรศัพท์ตรงสำนักงานเขตอีก 50 เลข โดยแต่ละหมายเลขจะมี 20 คู่สาย
ส่วนสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 200,989,081 ราย เสียชีวิต 4,270,029 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 36,176,471 ราย อันดับ 2 อินเดีย 31,810,782 ราย อันดับ 3 บราซิล 20,026,533 ราย อันดับ 4 รัสเซีย 6,356,784 ราย และอันดับ 5 ฝรั่งเศส 6,207,416 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 40