สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ต่อกรณี "กู้วิกฤติท่องเที่ยวไทย" หลังจากการระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงและยาวนาน สร้างความเสียหายต่อธุรกิจท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ขณะที่โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นำร่องท่องเที่ยวยังประสบปัญหา มาตรการล็อกดาวน์กระทบต่อการเดินทางข้ามจังหวัด คนทำงานท่องเที่ยวตกงานจำนวนมาก ปัญหาเหล่านี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า เป้าหมายการท่องเที่ยวที่ตั้งไว้จะเป็นไปได้หรือไม่
โดยเมื่อถามความเห็นประชาชนถึงปัญหาใหญ่การท่องเที่ยวไทย ณ วันนี้ พบว่า อันดับแรก ตอบว่า โควิด-19 ทำให้สูญเสียรายได้มหาศาล อันดับ 2 ตอบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่กล้ามาไทย เพราะยังมียอดผู้ติดเชื้อสูง และอันดับ 3 ตอบว่า ผู้ประกอบการขาดเงินทุน สภาพคล่อง คนตกงาน
เมื่อถามประชาชนว่า ภาครัฐควรดำเนินการอย่างไร เพื่อให้การท่องเที่ยวเดินหน้าต่อไปได้ อันดับแรก ตอบว่า มีแผนป้องกันและควบคุมโควิด-19 ให้ได้เร็วที่สุด อันดับ 2 ตอบว่า สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว ปลอดภัยจากโควิด-19 และอันดับ 3 ตอบว่า ปูพรมฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่ท่องเที่ยวโดยเร็ว
ทั้งนี้ หากในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี (ต.ค.-ธ.ค.64) สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น ประชาชนพร้อมจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศหรือไม่ พบว่า ประชาชน 37.99% ตอบว่าพร้อม ขณะที่ประชาชน 35.65% ตอบว่าไม่พร้อม และอีก 26.36% ตอบว่าไม่แน่ใจ
เมื่อถามว่า ภาครัฐควรมีมาตรการอย่างไร เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนออกเดินทางท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี (ต.ค.-ธ.ค.64) พบว่า อันดับแรก ตอบว่า มีมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขในพื้นที่ท่องเที่ยว อันดับ 2 ตอบว่า มีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น ช่วยค่าใช้จ่าย คนละครึ่ง และอันดับ 3 ตอบว่า ฟรีประกันคุ้มครองการเดินทาง ประกันโควิด-19
เมื่อถามว่า ประชาชนคิดว่าการที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยว ปี 2564 ทั้งในและต่างประเทศไว้ที่ 8.5 แสนล้านบาท เป็นไปได้มากน้อยเพียงใดนั้น พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 52.16% ตอบว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ส่วนประชาชน 27.39% ตอบว่า เป็นไปไม่ได้แน่นอน ขณะที่ประชาชน 17.15% ตอบว่า น่าจะเป็นไปได้ โดยมีเพียง 3.30% ที่ตอบว่าเป็นไปได้แน่นอน
อนึ่ง ผลการสำรวจดังกล่าว มาจากความคิดเห็นของประชาชนจำนวนทั้งสิ้น 1,195 คน (สำรวจทางออนไลน์) ดำเนินการสำรวจระหว่างวันที่ 2-5 สิงหาคม 2564