ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 23,418 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 17,642 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 5,379 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 388 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 9 ราย มาจากมาเลเซีย และเมียนมา ประเทศละ 3 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย และอิรัก 1 ราย
- เสียชีวิต 184 ราย เพศชาย 100 ราย เพศหญิง 84 ราย อายุระหว่าง 12-105 ปี (ค่ากลาง 67 ปี) โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังเป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว จากกทม. 71 ราย
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 863,189 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 20,083 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 7,126 ราย
ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพฯ 5,140 ราย, สมุทรปราการ 1,936 ราย, สมุทรสาคร 1,847 ราย, ชลบุรี 1,408 ราย, นนทบุรี 731 ราย, อุบลราชธานี 537 ราย, นครปฐม 532 ราย, บุรีรัมย์ 530 ราย, สระบุรี 485 ราย, พระนครศรีอยุธยา 484 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า ในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ได้มีการหารือถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯ ที่ทำนิวไฮวันนี้ว่า เป็นผลจากตรวจเชิงรุกในชุมชมจากหน่วยปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 เชิงรุก (CCRT) ซึ่งใน 10 คนจะพบผู้ติดเชื้อ 1 คน จึงมีโอกาสพบผู้ติดเชื้อได้มาก และหากใครที่พบว่ามีความเสี่ยง หรือไปสัมผัสผู้ติดเชื้อก่อนหน้า ให้แยกตัวออกจากครอบครัวหรือชุมชน และรีบเข้ารับการตรวจโดยเร็ว
วันนี้พบคลัสเตอร์ใหม่เพิ่มขึ้น ที่ จ.สมุทรสาคร ในอ.เมือง 2 แห่ง คือ ที่บริษัทผลิตกระป๋อง จำนวน 16 ราย ที่บริษัทเฟอร์นิเจอร์ จำนวน 14 ราย และที่โรงงานทอผ้า อ.กระทุ่มแบน จำนวน 9 ราย, จ.ชลบุรี ที่บริษัทผลิตภัณฑ์อาหาร อ.บ้านบึง จำนวน 21 ราย, จ.นนทบุรี ที่บริษัทเสื้อผ้า อ.บางใหญ่ จำนวน 58 ราย, จ.นครปฐม ที่บริษัทเครื่องกีฬา อ.สามพราน จำนวน 10 ราย, จ.ระยอง ที่โรงงานอาหารทะแล อ.แกลง จำนวน 16 ราย, จ.ราชบุรี ที่โรงงานน้ำแข็ง อ.บางปลาม้า จำนวน 17 ราย, จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่โรงงานผลไม้กระป๋อง อ.กุยบุรี จำนวน 14 ราย, จ.ตาก ที่หอพักนักเรียน อ.พบพระ จำนวน 13 ราย, จ.จันทบุรี ที่ค่ายตากสิน อ.เมือง จำนวน 19 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงสถานการณ์หญิงตั้งครรภ์ที่ป่วยและเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-11 ส.ค. 2564 พบผู้ติดเชื้อ 185 ราย คิดเป็น 0.02% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดที่รับรายงาน พบที่สมุทรปราการ 52 ราย ชลบุรี 22 ราย กรุงเทพฯ 11 ราย มหาสารคาม 9 ราย สระแก้ว 7 ราย ซึ่ง 73% จะเป็นสัญชาติไทย
ส่วนผู้เสียชีวิต 29 ราย คิดเป็น 0.43% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดที่รับรายงาน แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 8 ราย สมุทรสาคร 3 ราย ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา และสมุทรปราการ จังหวัดละ 2 ราย ซึ่ง 83% จะเป็นสัญชาติไทย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ สิ่งที่ป้องกันได้ คือ ควรเข้ารับการฉีดวัคซีน
ส่วนสถานการณ์ติดเชื้อในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะระหว่างวันที่ 1 พ.ค.-12 ส.ค.2564 มีผู้ติดเชื้อ 353 ราย คิดเป็น 0.05% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด มีผู้เสียชีวิต 104 ราย คิดเป็น 1.54% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะขับรถแท็กซี่ ขับรถโดยสารสาธารณะ ขับรถตู้ และจักรยานยนต์รับจ้าง
สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 206,236,180 ราย เสียชีวิต 4,347,999 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 37,203,649 ราย อันดับ 2 อินเดีย 32,117,052 ราย อันดับ 3 บราซิล 20,285,067 ราย อันดับ 4 รัสเซีย 6,534,791 ราย และอันดับ 5 ฝรั่งเศส 6,398,983 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 35