พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมระบบการดูแลและติดตามผู้ป่วยโควิด-19 ในระบบHome isolation และการพัฒนาวัคซีน Chulacov19 และการผลิตพัฒนาวัคซีนจากใบยาสูบ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า กำลังพิจารณาว่าหลังวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผลของการทำงาน ดังนั้นทุกคนต้องร่วมมือกันตามมาตรการสาธารณสุข และขออย่าทำกิจกรรมสุ่มเสี่ยงที่ทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ห้าม
สถานการณ์ขณะนี้ สิ่งสำคัญจะต้องดูว่า สถานการณ์วันนี้เป็นอย่างไรในช่วงที่เราล็อกดาวน์ ซึ่งไม่ได้มีการปิดทุกกิจการ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ที่เปิดให้บริการคนก็ไม่กล้ามาเพราะกลัวจะติดเชื้อ ทุกคนจึงต้องดูแลตัวเองให้ดีและในส่วนของรัฐบาลก็จะดูแลให้ดีที่สุด
ขณะที่สถานการณ์โลกก็มีปัญหาพอสมควร แต่ยืนยันไม่ท้อแท้ จะร่วมมือแก้ปัญหาอย่างดีที่สุด และขอขอบคุณบุคคลากรทางการแพทย์ทุกคน รัฐบาลต้องมองไปข้างหน้า ไม่ใช่เฉพาะการแก้ปัญหาโควิด-19 อย่างเดียว รวมถึงปัญหาด้านเศรษฐกิจด้วย
ส่วนการพัฒนาวัคซีนระยะต่อไปก็รับเรื่องไว้ทั้งหมด และจะทำอย่างไรให้ไทยอยู่กับโควิดให้ได้ด้วยความสงบ เพราะถ้าไม่สงบก็อยู่ไม่ได้ จะวุ่นวาย ร้อนรุ่มไปหมด
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า รู้สึกเสียใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งการแพร่ระบาดและการเสียชีวิตของประชาชน แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือ เราจะมีระบบสาธารณสุขที่แข็งแกร่งกว่าเดิม หากทำได้เหมือนปัจจุบันที่ทำอยู่ ก็จะสามารถรับมือกับโรคระบาดในอนาคตได้ พร้อมกับการเดินหน้าทางเศรษฐกิจไปให้ได้
ส่วนกรณีการทำสัญญาจัดซื้อชุดตรวจโควิด 19 Antigent Test Kit (ATK) นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้ผู้เกี่ยวข้องดูแลอยู่ โดยกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการ