นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยความคืบหน้าการฉีดวัคซีนในระบบ MOPH Immunization Center (MOPH-IC) ของ สธ. โดยมี 8 จังหวัดที่ฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีได้ครอบคลุมเกิน 50% ได้แก่ ปทุมธานี สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ พังงา ภูเก็ต ระนอง และกรุงเทพฯ ซึ่งขอให้ทุกจังหวัด โดยเฉพาะ 29 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เร่งดำเนินการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ เนื่องจากขณะนี้การติดเชื้อในพื้นที่ต่างจังหวัดอยู่ที่ 56% ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่ที่ 44% ดังนั้นการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จึงเป็นมาตรการสำคัญช่วยลดการเจ็บป่วยและเสียชีวิต
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับรายงานการฉีดวัคซีนยอดรวมทั่วประเทศวันนี้ (20 ส.ค.64) ทั้งหมด 25,818,666 โดส แบ่งเป็น เข็มแรกจำนวน 19,586,009 โดส เข็มที่สองจำนวน 5,705,200 โดส และเข็มที่สามจำนวน 527,457โดส อัตราการฉีดวานนี้ (19 ส.ค.64) อยู่ที่ 651,606 โดส แบ่งเป็น แอสตร้าเซนเนก้า 261,495 โดส ซิโนแวค 257,780 โดส และ ไฟเซอร์ 24,120 โดส และซิโนฟาร์ม 108,211 โดส เพื่อให้บรรลุเป้าหมายฉีดครอบคลุมประชากรกว่า 70% ภายในสิ้นปีนี้ได้นั้น ต้องเร่งรัดการฉีดให้ได้กว่า 5 แสนโดสต่อวัน
โดยเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุม ศบค.มีมติเห็นชอบให้ สธ.จัดหาวัคซีนเพิ่มเติมในไตรมาส 4 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ยังคงมีผู้ติดเชื้อสูงต่อเนื่อง หลังแผนการส่งมอบวัคซีนของวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) ที่เจรจาไว้ไม่สามารถจัดส่งให้ประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าสามารถส่งมอบได้ 5-6 ล้านโดสต่อเดือน โดยวัคซีนที่พร้อมจัดส่งได้แก่ ไฟเซอร์ 10 ล้านโดส และซิโนแวค 12 ล้านโดส และวัคซีนอื่นๆ ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลกอีก 10 ล้านโดส