พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ระบุการออก พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นแนวคิดในการป้องกันภัยรูปแบบใหม่เหมือนแนวทางการทำงานของแพทย์ที่มุ่งจะสร้างภูมิคุ้มกันโรคเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเจ็บป่วยแล้วต้องมาตามรักษา ซึ่งเป็นแนวทางดูแลความมั่นคงตั้งแต่ในช่วงที่มีเหตุการณ์ปกติ โดยไม่ได้มุ่งหวังที่จะไปจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน
"เป็นแนวความคิดอันใหม่ ซึ่งคล้ายกับแนวคิดทางการแพทย์ที่พูดว่าเราควรที่จะป้องกันก่อนที่จะรักษา...ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ก็คือแนวทางที่จะดูแลเรื่องความมั่นคงในยามปกติ" พล.อ.สุรยุทธ์ กล่างในรายการเปิดบ้านพิษณุโลก
เมื่อวานนี้(19 ต.ค.) ที่ประชุมวิปสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ส่งร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวกลับมาให้รัฐบาลแก้ไขปรับปรุงใหม่ให้เหมาะสม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันมีกฎหมายในลักษณะนี้ใช้อยู่ในหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐ อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส โดยจะนำมาใช้ในกรณีที่จำเป็น ไม่ใช้อย่างพร่ำเพรื่อ สามารถครอบคลุมปัญหาทั้งหมด จากเดิมที่จะมีกฎหมายออกมาเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว
"ผมมีความเห็นว่าบ้านเราไม่ค่อยจะใช้กฎหมายมาบังคับอยู่แล้ว การบังคับใช่ไม่เต็มที่ ถึงเวลาใช้จริงๆก็ใช้แบบนุ่มนวล ใช้แบบเห็นอกเห็นใจกัน ไม่ได้ใช้เต็มที่ด้วยรุนแรงเหมือนอย่างในประเทศอื่น" พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว
ส่วนความกังวลเรื่องการใช้อำนาจพิเศษนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีการนำกฎหมายอื่นมาใช้ควบคู่กันไปด้วย โดยไม่ต้องประกาศใช้กฎอัยการศึก ซึ่งประชาคมโลกมองเป็นกฎหมายที่ล้าสมัย
นอกจากนี้ กฎหมายดังกล่าวจะรองรับสถานการณ์ในอีก 8 ปีข้างหน้า ซึ่งประชากรของสมาชิกกลุ่มอาเซียนสามารถไปมาหาสู่กันมากขึ้น เพื่อให้เป็นไปในช่องทางตามกฎหมาย ไม่ให้เกิดการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--