นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับกระทรวงการคลัง ประกาศใช้หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2564 ตามที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอเพื่อปรับปรุงอัตราการให้ความช่วยเหลือให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้นจากหลักเกณฑ์เดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2556 โดยมีขอบเขตการจ่ายเงินทดรองราชการว่าจะต้องเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินด้านการเกษตรแก่ผู้ประสบภัยที่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนกับหน่วยงานที่กำกับดูแลแต่ละด้านของกระทรวงเกษตรฯ ก่อนเกิดภัยพิบัติ
โดยด้านปศุสัตว์ มีการปรับเกณฑ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติเกือบทุกชนิดสัตว์ และมีอัตราเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเกษตรกรผู้ประสบภัยจากโรคลัมปี-สกิน จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับการช่วยเหลือตามอัตราใหม่ โดยหลักเกณฑ์ฯ ระบุว่าผู้ประสบภัยพิบัติในกรณีที่เป็นการจัดหาอาหารสัตว์ วัคซีนและเวชภัณฑ์รักษาสัตว์ เพื่อการฟื้นฟู สุขภาพสัตว์เลี้ยง และการจัดหาอาหารสัตว์ตามราคาท้องตลาด หรือตามความจำเป็นเหมาะสม การให้ความช่วยเหลือกรณีแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรตาย หรือเสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟูหรือเยียวยาให้กลับสู่สภาพเดิมได้ ให้ดำเนินการช่วยเหลือเป็นเงินในอัตราไร่ละ 1,980 บาท แต่ไม่เกินรายละ 30 ไร่
การให้การช่วยเหลือกรณีสัตว์ตาย หรือสูญหาย ให้ช่วยเหลือตามจำนวนที่เสียหายจริง แต่ไม่เกินเกณฑ์การช่วยเหลือ โดยดำเนินการช่วยเหลือ อาทิ โค ได้ไม่เกินรายละ 5 ตัว อายุน้อยกว่า 6 เดือน 13,000 บาท อายุ 6 เดือนถึง 1 ปี 22,000 บาท อายุมากกว่า 1 ปีถึง 2 ปี 29,000 บาท อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป 35,000 บาท, กระบือ ไม่เกินรายละ 5 ตัว อายุน้อยกว่า 6 เดือน 15,000 บาท อายุ 6 เดือนถึง 1 ปี 24,000 บาท อายุมากกว่า 1 ปีถึง 2 ปี 32,000 บาท อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป 39,000 บาท, สุกร รายละไม่เกิน 10 ตัว อายุ 1 ถึง 30 วัน 1,500 บาท อายุมากกว่า 30 บาทขึ้นไป 3,000 บาท, แพะ/แกะ ไม่เกินรายละ 10 ตัว อายุ 1-30 วัน 1,500 บาท อายุมากกว่า 30 วัน 3,000 บาท, ไก่พื้นเมือง/ไก่งวง ไม่เกินรายละ 300 ตัว อายุ 1-21 วัน 30 บาท อายุ 21 วันขึ้นไป 80 บาท นอกจากนี้ยังมีไก่ไข่ ไก่เนื้อ เป็ดไข่ เป็ดเนื้อ นกกระทา นกกระจอกเทศ และห่าน ตามอัตราที่กำหนด
สำหรับสถานการณ์การระบาดของโรคลัมปี-สกิน ในโคและกระบือนั้น กรมปศุสัตว์ได้มีมาตรการต่างๆ ในการควบคุมโรค ทำให้สถานการณ์การระบาดเริ่มดีขึ้นตามลำดับ และตอนนี้กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการสั่งวัคซีน LSDV ป้องกันโรคลัมปี-สกิน เข้ามาเพิ่มอีก 5 ล้านโดส โดยจะมีการนำเข้ามาถึงประเทศไทยภายในวันที่ 6 ก.ย.64 ล็อตแรก 2.5 ล้านโดส และจะทยอยเข้ามาอีกในล็อตที่สอง และล็อตที่สาม จนครบ 5 ล้านโดส ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้มีการวางแผนจัดสรรวัคซีนไว้แล้ว ยึดตามหลักรวดเร็ว ทั่วถึง เป็นธรรม ตามสัดส่วนของจำนวนประชากรสัตว์ทั่วประเทศ โดยขณะนี้หน่วยงานในสังกัดของกรมปศุสัตว์ในพื้นที่ต่างๆ มีการทำแผนวัคซีนเรียบร้อยแล้ว และสามารถดำเนินการได้ทันทีที่วัคซีนมาถึง
ส่วนการจ่ายเงินเยียวยากรณีโคและกระบือเสียชีวิตจากโรคลัมปี-สกินนั้น คาดว่าจะเริ่มจายเงินเยียวยาให้กับเกษตรกรที่ยื่นเอกสารเข้ามา และผ่านการตรวจสอบตามกระบวนการของกรมปศุสัตว์เรียบร้อยได้ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะจ่ายจากบัญชีของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าบัญชีของเกษตรกรโดยตรง