นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) ได้เห็นชอบมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ 29 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ทางรฟม. พร้อมขานรับนโยบาย โดยร่วมมือกับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ในการควบคุมความหนาแน่นของผู้โดยสารให้ไม่เกิน 75% ของความจุภายในขบวนรถไฟฟ้า รวมทั้งขอความร่วมมือผู้โดยสารตระหนักถึงการดูแลสุขอนามัยของตนเองและส่วนรวมตลอดการเข้าใช้บริการรถไฟฟ้า MRT ดังนี้
- กรณีที่มีผู้โดยสารหนาแน่น จะมีการจัดลำดับการเข้าใช้บริการของผู้โดยสาร (Group Release) เพื่อควบคุมปริมาณผู้ใช้บริการไม่ให้เกิดความแออัดทั้งในสถานีและในขบวนรถไฟฟ้า
- ขอความร่วมมือผู้โดยสารรักษาระยะห่างทางสังคมหรือ Social Distancing
- ขอความร่วมมือผู้โดยสารตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิก่อนเข้าใช้บริการรถไฟฟ้า MRT โดยผู้โดยสารจะต้องมีอุณหภูมิร่างกายไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส
- ขอความร่วมมือผู้โดยสารสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดการเข้าใช้บริการ
- ขอความร่วมมือผู้โดยสารงดการสนทนาขณะโดยสารภายในขบวนรถ
- ขอความร่วมมือผู้โดยสารไม่หันหน้าเข้าหากันเมื่ออยู่ภายในสถานีและภายในขบวนรถไฟฟ้า
- ขอความร่วมมือผู้โดยสารสแกน QR Code ไทยชนะ ที่ติดอยู่ในตู้โดยสาร
- ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังการใช้บริการทุกครั้ง
ทั้งนี้ รฟม. และ BEM ได้ให้ความสำคัญในการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19 ในระบบรถไฟฟ้า MRT ทั้ง 2 สาย อย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยการจัดให้มีจุดตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าทุกสถานีตลอดระยะเวลาการให้บริการ การตั้งจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือภายในสถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี การเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อภายในสถานีและภายในขบวนรถไฟฟ้า การทำความสะอาดเหรียญโดยสารก่อนนำไปให้บริการ รวมถึงตรวจวัดอุณหภูมิของเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการในสถานี เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
ปัจจุบันรถไฟฟ้า MRT ได้มีการปรับเวลาในการให้บริการ โดยรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ให้บริการเวลา 06.00 - 21.00 น. และรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ให้บริการเวลา 05.30 - 21.00 น. (รถไฟขบวนสุดท้ายถึงสถานีปลายทาง เวลา 21.00 น.) ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นมา จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง