นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อต่อวันเริ่มลดลงเรื่อยๆ ส่งผลให้การบริหารจัดการเตียงในขณะนี้เพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วยสีเหลือง และสีแดงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่กทม.และปริมณมณฑล ยังพบความตึงตัวอยู่บ้างเล็กน้อย โดยพบว่ามีผู้ป่วยสีเขียวประมาณ 76% ผู้ป่วยสีเหลือง 20% และผู้ป่วยสีแดงประมาณ 3% ซึ่งผู้ป่วยที่ครองเตียงทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 40,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มีจำนวนลดลงเช่นกัน
ในขณะนี้การทำ Home Isolation (HI) ในพื้นที่ กทม. เริ่มเป็นไปอย่างมีระบบ โดยมีจำนวนเคสการทำ HI สะสมอยู่ที่ 92,315 ราย และมีจำนวนผู้ป่วยระบบอยู่ที่ 53,594 ราย โดยเฉลี่ยมีผู้ป่วยที่ทำ HI ต่อวันอยู่ที่ไม่เกิน 500 ราย/วัน โดยพบผู้ป่วยที่มีอาการหนักแล้วต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลประมาณ 7-8%
"ปัญหาที่พบ คือ มีผู้ติดเชื้อบางรายที่ทำ HI ไม่ยอมเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ขอย้ำผู้ติดเชื้อว่าหากถ้าอาการแย่ลงขอให้ฟังแพทย์และปฎิบัติตาม โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการออกซิเจนในกระแสเลือดลดลง...ขอให้ประชาชนวางใจว่าเตียงมีเพียงพอ เนื่องจากมีการบริหารจัดการเตียงสีเหลือง และสีแดงได้ดีขึ้น โดยผู้ป่วยสีแดงสามารถหาเตียงได้ไม่เกิน 24 ชม." นพ.สมศักดิ์ กล่าว
สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ จะต้องทำ Community Isolation (CI) ที่ศูนย์พักคอย โดยในพื้นที่กทม. มีเตียงทั้งหมด 7,397 เตียง และมีอัตราการครองเตียงอยู่ที่ 1,593 ราย ซึ่งเหลือเตียงว่างอยู่ที่ 5,804 เตียง แสดงให้เห็นว่ายังมีเตียงเพียงพอในการรองรับผู้ป่วยถึง 70% โดยขณะนี้มีผู้ป่วยต่อวันเฉลี่ยอยู่ที่ 100 ราย นอกจากนี้ ยังมีโรงพยาบาลสนามประจำกลุ่มเขต หรือ CI Plus ทั้งหมด 8 แห่งที่สามารถดูแลผู้ป่วยสีเหลือง รวมมีเตียงทั้งหมด 1,660 เตียง มีเตียงคงเหลืออยู่ที่ 1,076 เตียง
ในส่วนของศูนย์แรกรับและส่งต่อนิมิบุตร กระทรวงสาธารณสุข ที่มีหน้าที่ส่งต่อผู้ป่วยได้เปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. 64 เนื่องจากสถานการณ์เริ่มปรับตัวดีขึ้น และจำนวนผู้รับบริการมีจำนวนลดลง จึงจะมีการย้ายการให้บริการไปยังโรงพยาบาลสนามเลิดสินในวันที่ 30 ก.ย. 64
สำหรับโรงพยาบาลบุษราคัม ที่มีจำนวนเตียงทั้งหมด 2,200 เตียง มีเตียงว่างจำนวน 1,376 เตียง มีการคาดการณ์ว่าจะปิดดำเนินการในเดือนต.ค. 64 เนื่องจากหมดสัญญากับทางอิมแพคเมืองทองธานี
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สธ. จะมีการประเมินสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงปลายเดือนก.ย. 64 อีกครั้ง ว่าหลังจากที่มีมาตรการคลายล็อกบางส่วนแล้ว จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นหรือลดน้อยลงอย่างไร
ทั้งนี้ สธ. ได้มีการเตรียมความพร้อมการบริการทางการแพทย์ ทั้งการเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด หากมีการระบาดระลอกใหม่ในพื้นที่กทม. และปริมณฑล โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มสีเหลือง และสีแดง ส่วนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มสีเขียวให้ใช้ HI และ CI เป็นหลัก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินคุณภาพมาตรฐานของการทำงาน
นอกจากนี้ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีการค้นพบสายพันธุ์ใหม่ในต่างประเทศ ทางสธ. จึงเตรียมประสานการจัดหายาใหม่ ที่กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัย เช่น ยา Molnupiravir (MSD) และยา 3 CL Protease Inhibitor (Pfizer) เป็นต้น ในขณะเดียวกันก็มีการศึกษาประสิทธิภาพยาที่ใช้รักษาโรคโควิด-19 ในประเทศไทย โดยคาดว่าผลการศึกษาวิจัยจะออกมาภายใน 2-3 เดือนนี้ รวมทั้งมีการเตรียมรูปแบบการแพทย์วิถีใหม่ (New Normal Medical Services) เพื่อรองรับการรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ด้วย