นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงเรื่องดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) ที่จะหมดสัญญาในวันที่ 10 ก.ย.นี้ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นมหากาพย์ต่อเนื่องมาตั้งแต่รัฐบาลในอดีตกว่า 30 ปีตั้งแต่มีสัมปทานนี้ และบางเรื่องก็ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลปัจจุบัน และเป็นสิทธิของผู้ร้องเรียนให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนได้ แต่ก็จะกระทบกับรัฐบาลในอดีตเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องเก่าที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้
"วันนี้ ขอให้มองว่าจะทำอย่างไรให้ดาวเทียมดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เพื่อให้ประโยชน์กับประชาชน และไม่ให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง และทำทุกอย่างให้ถูกกฎหมาย จะต้องไม่มีการทุจริต เพื่อไม่ให้มีปัญหากระทบกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นแนวทางที่กระทรวงดีอีเอสจะมุ่งเน้นมากกว่า" นายชัยวุฒิกล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ดาวเทียมไทยคม 4 จะหมดสัญญาสัมปทานในวันที่ 10 ก.ย.นี้แล้ว รัฐบาลจะรับมาดำเนินการต่อในนามของรัฐบาล และให้ความมั่นใจว่าจะไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชน และไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ
ส่วนกรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี ยื่นหนังสือร้องเรียนนั้น ก็จะไปตรวจสอบ เนื่องจากตนเพิ่งเข้ามาทำหน้าที่ มีเรื่องร้องเรียนหลายเรื่องที่เป็นเรื่องเก่า ซึ่งการมารื้อฟื้นอาจจะทำได้ยาก ดังนั้นก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลชุดปัจจุบันด้วย และรัฐบาลปัจจุบันก็จะต้องชี้แจงและแก้ไข รวมถึงทำความเข้าใจกันไป
"แนวทางที่ทำอยู่ดีที่สุดแล้ว เพียงแต่ที่มีผู้ร้องมันเป็นปัญหาในอดีต ซึ่งเป็นเงื่อนปัญหาที่ผูกไว้ในอดีต การที่จะมาแก้ในปัจจุบันต้องค่อย ๆ ทำ คงไม่ใช่ถูกใจทุกคน ก็ต้องค่อย ๆ ชี้แจงทำความเข้าใจกันไป" รมว.ดีอีเอสกล่าว