นพ.ยง ชี้การให้วัคซีน mRNA ในเด็กเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ย้ำควรมุ่งเน้นกลุ่มเสี่ยงก่อน

ข่าวทั่วไป Friday September 10, 2021 11:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลับ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีการให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเด็ก โดยระบุว่า ทุกคนควรได้รับวัคซีน แต่ปัญหาโรคโควิด-19 มีความรุนแรงในผู้สูงอายุ หรือกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว เด็กถึงแม้จะเป็นโควิดจะมีอาการน้อย โอกาสเป็นปอดบวมน้อยมาก และยิ่งน้อยมาก ๆ ที่จะเสียชีวิตจากโควิด-19

การให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเด็ก วัคซีนจะต้องมีความปลอดภัยสูงมากจึงจะคุ้มค่า เพราะตัวเด็กเอง โดยเฉพาะวัยเรียน เป็นแล้วไม่รุนแรง นอกจากจะนำเชื้อมาสู่ผู้แก่ผู้เฒ่าที่บ้าน หรือทำให้เกิดการระบาดได้ โดยเฉพาะในโรงเรียนที่มีคนอยู่ร่วมกันมากๆ

การให้ mRNA วัคซีนในเด็กอายุ 12-17 ปี มีความเสี่ยงในการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ถ้าคำนึงถึงผลได้ ผลเสียในระยะเวลา 120 วัน เด็กอายุ 12-17 ปี ถ้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 mRNA 1 ล้านคน จะป้องกันการเสียชีวิตในเด็กชายได้ 2 คน และถ้าเป็นเด็กหญิง 1 คน

ถ้าฉีดวัคซีน mRNA เข็มที่ 2 มีโอกาสเป็นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ในเด็กชาย (12-17 ปี) 59 -69 คน เด็กหญิง 8-10 คน ใน 1 ล้านคนที่ฉีดวัคซีน ในประเทศสหรัฐอเมริกา

กลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ควรจะได้รับวัคซีนก่อนให้มากที่สุด เพื่อลดความรุนแรงของโรค และอัตราการเสียชีวิตก่อน แล้วถ้าวัคซีนมีมากเพียงพอ ทุกคนก็ควรได้รับวัคซีน รวมทั้งเด็กด้วย ความเสี่ยงและประโยชน์ที่ได้จะต้องนำมาประกอบการตัดสินใจของผู้ปกครอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ