ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12,709 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 10,962 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 878 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 858 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 11 ราย มาจาก อิสราเอล 1 ราย สหรัฐอเมริกา 2 ราย กัมพูชา 7 ราย และเมียนมา (ช่องทางธรรมชาติ) 1 ราย
ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่าย ATK 1,723 ราย
- เสียชีวิต 106 ราย เป็นชาย 64 ราย หญิง 42 ราย อายุเฉลี่ย 71 ปี (28-96 ปี) มีสัดส่วนของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 74 ราย คิดเป็น 70% และผู้มีโรคเรื้อรัง 25 ราย คิดเป็น 23% และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 7 ราย คิดเป็น 7%
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 1,489,186 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 11,125 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 15,469 ราย
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า ศบค.ชุดเล็ก มีความเป็นห่วง 4 จังหวัดภาคใต้เนื่องจากอัตราผู้ติดเชื้อยังเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงอัตราผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตยังสูงขึ้น โดยมีอัตราการฉีดวัคซีนค่อนข้างน้อย มีเพียงยะลาจังหวัดเดียวที่สามารถฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มเสี่ยงรวมถึงหญิงตั้งครรภ์ ได้ครอบคลุม 70% จึงขอให้เร่งระดมฉีดวัคซีน และขอให้ความร่วมมือประชาชนฉีดวัคซีนด้วย
โดยจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดในวันนี้ 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 2,831 ราย สมุทรปราการ 942 ราย ชลบุรี 532 ราย ระยอง 451 ราย ยะลา 440 ราย ราชบุรี 424 ราย นครศรีธรรมราช 338 ราย สงขลา 334 ราย นนทบุรี 329 ราย และ สมุทรสาคร 325 ราย
พญ.อภิสมัย เปิดเผยว่า ยังคงพบคลัสเตอร์ต่างๆ ทั้งในแคมป์คนงานที่ปราจีนบุรี ระยอง จันทรบุรี กาญจนบุรี / ที่ตลาดงานศพ อุดรธานี ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเกิน 200 ราย / ตลาดสด ทั้งที่สระแก้ว ชัยภูมิ นครศรีธรรมราช / ศูนย์ฝึกทหาร นักเรียนทหาร ที่สตูล / ชุมชนหมู่บ้าน ที่หนองบัวลำภู ปัตตานี ยะลา และสงขลา / การตั้งวงดื่มเหล้า ที่มหาสารคาม พร้อมเน้นย้ำหน่วยงานราชการที่จะมีการจัดงานมุทิตาจิตผู้เกษียณอายุราชการด้วย
ทั้งนี้ พญ.อภิสมัย เปิดเผยว่า วันนี้มีรายงานจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อที่บึงกาฬ และมีพื้นที่สีเขียวกลับมาที่หนองคาย นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร แพร่ พะเยา น่าน และมีพื้นที่สีเหลือง ที่พังงา สตูล และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นการวางแผนเตรียมการเพื่อเป็นพื้นที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยว
ส่วนการเปิดกรุงเทพแซนด์บ็อกซ์ นั้น ในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.)ทาง พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เน้นย้ำว่า ยังไม่ได้มีการกำหนดวันเปิด "กรุงเทพ แซนด์บ็อกซ์" โดยมีเกณฑ์พิจารณา คือ ประชาชนในกทม.ต้องได้รับวัคซีนเข็ม 2 เกิน 70% และอัตราผู้ติดเชื้อรายวันต้องมีทิศทางลดลงต่อเนื่อง รวมถึงต้องพิจารณาศักยภาพเตียงในการรองรับ หากพบการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น หรือเกิดคลัสเตอร์ใหม่ๆ ได้ และในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการเตรียมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ร่วมกับสมาคม ผู้ประกอบภาคเอกชนต่างๆ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ขนส่งสาธารณะ
ขณะที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในกทม.ว่า ในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,831 ราย สะสม 346,262 ราย และในช่วงหลังจะไม่พบผู้เสียชีวิตที่บ้าน แสดงให้เห็นว่า ศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยทั้งระดับเขียว เหลือง แดง ของกทม.ถือว่ามีความพร้อม และมีการฉีดวัคซีนเข็ม 1 ไปแล้ว 7,863,347 ราย คิดเป็น 102.13% เข็ม 2 ฉีดไปแล้ว 3,277,404 ราย คิดเป็น 42.57% ซึ่งตั้งเป้าหมายฉีดเข็ม 2 ครบ 70% ส่วนเข็ม 3 ฉีดไปแล้ว 197,982 ราย
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในวันพุธนี้ (22 ก.ย.) ทางกทม.จะมีการวีดิโอคอนเฟอร์เรนท์ร่วมกับทางภูเก็ต เพื่อหารือแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยว
ส่วนภาพรวมผู้ติดเชื้อในภูเก็ต ตั้งแต่ 1 ก.ค.-14 ก.ย. มีนักท่องเที่ยวทั้งหมด 32,005 ราย พบผู้ติดเชื้อ 91 ราย (0.28%) ซึ่งทางภูเก็ตมีศูนย์บริหารจัดการผู้ติดเชื้อโควิดแบบครบวงจร ที่ศาลากลางภูเก็ต
ส่วนชลบุรี แม้ยังมีรายงานผู้ติดเชื้อทั้งจังหวัดค่อนข้างสูง แต่หากพิจารณาเป็นรายอำเภอ เช่น ศรีราชา บ้านบึง สัตหีบ มีอัตราติดเชื้อแตกต่างกัน ซึ่งสามารถเลือกเปิดพื้นที่นำร่องเป็นบางอำเภอได้ ซึ่งเกณฑ์ในการเปิดพื้นที่นำร่องต้องได้รับการฉีดวัคซีนเกิน 80%
ส่วนที่เชียงใหม่ ประมาณเดือนพ.ย. คาดว่า ประชาชนในพื้นที่จะได้รับวัคซีนครบ 70% ซึ่งมีอัตราผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต ลดลงต่อเนื่อง และสามารถบริหารจัดการการเกิดคลัสเตอร์ได้ดี จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณาให้เป็นพื้นที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม พญ.อภิสมัย กล่าวว่า จะมีการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ในวันจันทร์ที่ 27 ก.ย.นี้ ซึ่งจะมีการหารือมาตรการให้ความช่วยเหลือในส่วนของผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ สถานบันเทิงต่างๆด้วย
ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 229,288,247 ราย เสียชีวิต 4,705,461 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 42,900,906 ราย อันดับ 2 อินเดีย 33,477,819 ราย อันดับ 3 บราซิล 21,239,783 ราย อันดับ 4 สหราชอาณาจักร 7,429,746 ราย และอันดับ 5 รัสเซีย 7,274,928 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 29