นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งว่า สืบเนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประเทศไทย มีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะดังกล่าวทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนชุกหนาแน่น โดยเฉพาะบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออก ส่งผลให้มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในการนี้ คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ จังหวัดนครสวรรค์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันกรมชลประทานต้องเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน ตั้งแต่บริเวณตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่บริเวณตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้ กรมชลประทานจะควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวด้วยการบริหารจัดการน้ำเต็มศักยภาพของพื้นที่ โดยมิให้มีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร หากมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทานจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำจะติดตามสถานการณ์น้ำเหนือไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนพระรามหก ปริมาณไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ณ อำเภอบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งสถานการณ์ฝน และพายุ ที่จะเกิดผลกระทบต่อกรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิด และประกาศแจ้งเตือนประชาชนผ่านทาง เว็บไซต์ของสำนักการระบายน้ำ (www.dds.bangkok.go.th) ทั้งนี้ขอให้หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตามช่องทางของสำนักการระบายน้ำในระยะนี้อย่างต่อเนื่อง