น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปตรวจรับมอบวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 2 ล้านโดส ซึ่งมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 04.35 น.ที่ผ่านมา โดยสายการบิน DHL เที่ยวบิน 3L 350
รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานรับมอบวัคซีนไฟเซอร์ ว่า วัคซีนที่มาถึงประเทศในวันนี้ เป็นล็อตแรกจากทั้งหมดที่รัฐบาลจัดซื้อมา 30 ล้านโดส ซึ่งทางไฟเซอร์จะจัดส่งในเดือนต.ค.อีก 6 ล้านโดส รวมถึงสิ้นเดือนต.ค. จะมีวัคซีนเข้ามา 8 ล้านโดส และครบทั้ง 30 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้แน่นอน
"วัคซีนทั้ง 30 ล้านโดส จะมีการจัดส่งได้ภายในปีนี้ ส่วนถึงสิ้นเดือนต.ค.นี้ จะมีทั้งหมด 8 ล้านโดส โดยจะเข้ามาทุกวันพุธของทุกสัปดาห์ และไฟเซอร์จะทำการจัดส่งไปยังที่หมายตามที่กรมควบคุมโรคกำหนดไว้ทั่วประเทศ เพราะราคาที่จัดซื้อมานี้ รวมค่าจัดส่งแล้ว การจัดส่งจะเป็นแบบ door to door" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายหลักที่จะฉีดวัคซีนไฟเซอร์ คือ ลูกหลานอายุระหว่าง 12-18 ปี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 5 ล้านกว่าคน ใช้วัคซีน 10 ล้านโดส ส่วนที่เหลือก็จะนำไปกระจายให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งกรมควบคุมโรคได้มีการวางแผนการฉีดไว้แล้ว โดยเฉพาะในการฉีดไขว้ตามมติคณะอนุกรรมการด้านเสริมภูมิคุ้มกันกัน ที่มีมติสูตรการฉีดที่จะทำให้มีภูมิคุ้มกันสูงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการฉีดซิโนแวคเข็มแรก แอสตร้าเซเนก้าเข็มที่ 2 หรือแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรก และไฟเซอร์เข็มที่ 2
ทั้งนี้ หลังจากรับวัคซีนล็อตนี้แล้ว กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะดำเนินการตรวจรับตามขั้นตอน และเร่งให้มีการกระจายวัคซีนไปยังพื้นที่เป้าหมายต่าง ๆ ทั่วประเทศเร็วที่สุด โดยคาดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
นอกจากนี้ นายอนุทิน กล่าวถึงแผนการการจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ในปี 65 ว่า ได้มีการพูดคุยไปในระดับหนึ่งแล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประเทศไทยว่าจะมีวัคซีนในเทคโนโลยีทุกประเภท เพียงพอในการให้การดูแลให้ความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชน