นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เผยผลการดำเนินงานของคณะกรรมการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ว่า ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (มี.ค.-ก.ย. 64) ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ประสานงานการตรวจสอบข่าวปลอมและเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานในด้านข่าวปลอมที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อสร้างสังคมการใช้โซเชียลสีขาวให้เกิดขึ้นได้ในประเทศไทย
กระทรวงฯ สามารถปิดกั้นและดำเนินการต่อผู้นำเข้าข้อมูลผิดกฎหมาย โดยยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อขอให้มีคำสั่งปิดกั้นจำนวน 56 คำร้อง รวม 1,014 ยูอาร์แอล และมีคำสั่งศาลให้ปิดกั้นแล้วจำนวน 46 คำสั่ง รวม 787 ยูอาร์แอล ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของศาลอาญาจำนวน 10 คำสั่ง รวม 221 ยูอาร์แอล
สำหรับการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำความผิดนำเข้าข้อมูลฯ ดำเนินการไปแล้ว 594 ยูอาร์แอล/บัญชีรายชื่อ แบ่งเป็น ผู้กระทำความผิดผ่านเฟซบุ๊ก 309 ยูอาร์แอล/บัญชีรายชื่อ ผ่านทวิตเตอร์ 169 ยูอาร์แอล/บัญชีรายชื่อ ผ่านยูทูบ 99 ยูอาร์แอล/บัญชีรายชื่อ และผ่านเว็บอื่นๆ 17 ยูอาร์แอล/บัญชีรายชื่อ
ขณะที่การดำเนินงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศตปค.ตร.) และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) รับข้อมูลข่าวปลอมและบิดเบือนจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม มาดำเนินการในช่วงเดือน พ.ค.-ก.ย.64 จำนวน 419 เรื่อง ประสานให้หน่วยงานผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 47 คดี และมีการตักเตือนให้ลบหรือแก้ไขข่าว จำนวน 34 ราย และอยู่ระหว่างสืบสวน 73 เรื่อง
รมว.ดีอีเอส กล่าวว่า กระทรวงฯ จะดำเนินการให้มีความเข้มข้นมากขึ้นสำหรับในระยะต่อไป โดยนอกเหนือจากการปราบปรามและแก้ไขปัญหาข่าวปลอมแล้ว เตรียมขยายผลให้ครอบคลุมภารกิจให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบหรือความเสียหาย อันเกิดจากการฉ้อโกงหรือการกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ รวมทั้งจะมีการส่งเสริมให้ความรู้กับประชาชนรณรงค์ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขข่าวปลอมมากขึ้นด้วย