นายกฯ มั่นใจความสำเร็จจากงานเวิลด์เอ็กซ์โปจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แสดงความชื่นชมในผลสำเร็จจากการเปิดต้อนรับผู้เข้าชมทั่วโลกอย่างเป็นทางการของอาคารแสดงประเทศไทยที่สร้างขึ้นภายใต้แนวคิด "การขับเคลื่อนสู่อนาคต" (Mobility for the Future) ในงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 ต.ค.64 - 31 มี.ค.65

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่ไทยจะได้สร้างความเชื่อมั่นผ่านศักยภาพและความพร้อมด้านเทคโนโลยีดิจิทัล การขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรมผ่านนโยบายดิจิทัลไทยแลนด์ 4.0 รวมถึงวิสัยทัศน์ในการมุ่งเป็นศูนย์กลางดิจิทัลในภูมิภาค ควบคู่กับการเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การค้า การลงทุน การเดินทาง การขนส่ง และจุดหมายการเดินทางของประชาชนทั่วโลก ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นโอกาสต่อยอดตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย โอกาสนี้นายกรัฐมนตรียังได้ชื่นชมโครงการฯ ที่เปิดโอกาสให้ตัวแทนเยาวชนอาสาสมัครไทยมีส่วนร่วมและเป็นตัวแทนประเทศประจำอาคารแสดงประเทศไทย เพื่อให้เยาวชนมีส่วนร่วมกับรัฐบาลพลิกโฉมประเทศไทยให้มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อวันนี้และวันข้างหน้าสำหรับคนไทยทุกคน

นายกรัฐมนตรียังมั่นใจว่าการแสดงศักยภาพของไทยในงานเวิลด์เอ็กซ์โปครั้งนี้จะสามารถดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติได้ ตลอดจนจะช่วยส่งเสริมและประชาสัมพันธ์แผนการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย ทั้งที่เริ่มดำเนินการแล้วและกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ได้แก่ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โครงการสมุยพลัส โครงการส่วนขยายของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 7+7 และแผนเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวระยะที่ 2 ที่จะเริ่มในวันที่ 1 พ.ย.64 ใน 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี (เมืองพัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ) เชียงใหม่ (อ.เมือง อ.แม่แตง อ.แม่ริม อ.ดอยเต่า) เพชรบุรี (ชะอำ) และประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) ซึ่งคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ พยุงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง กระจายรายได้สู่ชุมชน และรักษาการจ้างงาน ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศจากสถานการณ์โควิด-19

สำหรับการงานเวิลด์เอ็กซ์โปถือเป็น 1 ใน 3 ของงานยิ่งใหญ่ระดับโลก จัดขึ้นทุกๆ 5 ปี ภายใต้การกำกับดูแลขององค์การระหว่างประเทศว่าด้วยงานมหกรรมโลก (Bureau of International Exposition (BIE) ซึ่งในปีนี้จัดขึ้น ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นงานนิทรรศการระดับโลกทำหน้าที่บันทึกความก้าวหน้าในด้านต่างๆ และทำให้ประดิษฐกรรมใหม่ๆ จากทั่วทุกมุมโลกเป็นที่รู้จักในเชิงพาณิชย์ สำหรับในปัจจุบัน งานฯ มุ่งให้ความสำคัญกับ นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับความท้าทายของโลกในช่วงเวลานี้ เช่น น้ำ สิ่งแวดล้อม พลังงานทดแทน ชีวิตในเมือง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

โดยอาคารแสดงประเทศไทยประกอบด้วย 3 พื้นที่หลักๆ ได้แก่ 1.นิทรรศการ บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ แนวทางการพัฒนาประเทศในอนาคต และเสน่ห์ของประเทศไทยในสายตาชาวต่างชาติ 2.พื้นที่เชิงพาณิชย์ ที่ประกอบไปด้วย ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และ Showcase Thailand 4.0 เกี่ยวกับการพัฒนาและศักยภาพของไทยแลนด์ 4.0 เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมด้วยนวัตกรรม และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทย และ 3.เวทีการแสดงวัฒนธรรมประเพณีไทย