นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ประธานกรรมการบริหาร สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือจากผู้แทนเกษตรกรในคณะกรรมการ กฟก.จำนวน 20 ราย นำโดยนายจารึก บุญพิมพ์ ผู้แทนเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และประธานกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร ให้แจ้งถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการ กฟก.ให้เร่งรัดติดตามโครงการแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ที่เป็นลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง ตามมติของคณะกรรมการ กฟก. และให้เร่งติดตามการของบประมาณ งบกลางปีงบประมาณ 2565 จำนวน 5,540.80 ล้านบาทเศษ เนื่องจากสำนักงาน กฟก.ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมา 3 ปีต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2563 แล้ว
การยื่นหนังสือดังกล่าว สืบเนื่องจากผู้แทนเกษตรกรไม่เห็นด้วยต่อการตั้งข้อสังเกตและเสนอแนะของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ที่ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ กค 1006/4256 ลงวันที่ 29 ก.ย.64 โดยมีประเด็นข้อสังเกตที่สำคัญว่าการร้องขอจัดสรรงบประมาณเพื่อการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรโดยให้ภาครัฐชำระหนี้แทนเกษตรกรนั้น อาจส่งผลกระทบต่อวินัยการก่อหนี้และชำระหนี้ของลูกหนี้ ซึ่งอาจเป็นแรงจูงใจให้เกษตรก่อหนี้เพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต รวมทั้งอาจขยายผลเป็นวงกว้างต่อลูกหนี้รายย่อยทั้งระบบ ซึ่งจะไม่ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและวินัยการเงินของประเทศ
นอกจากนี้ ผู้แทนเกษตรกรยังไม่เห็นด้วยที่มีการเชื่อมโยงเหตุผลดังกล่าวว่าการดำเนินการตามโครงการนี้ ธนาคารเจ้าหนี้ควรได้รับการชดเชยทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเต็มจำนวน เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดผลกระทบต่อรายได้ของธนาคาร หรือสถาบันเจ้าหนี้ ซึ่งการตั้งข้อสังเกตดังกล่าว ทำให้เข้าใจได้ว่าสำนักงาน กฟก.ไม่สมควรดำเนินการในโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรตามที่ได้เสนอไป ซึ่งเกษตรกรก็ถือเป็นประชาชนที่ได้จ่ายภาษีเพื่อที่จะนำมาพัฒนาประเทศ สมควรได้รับการช่วยเหลือจากรัฐอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม ซึ่งโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรนั้น ได้เคยดำเนินการมาแล้วเมื่อปี 2553 เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้กว่า 27,000 ราย
"เรื่องนี้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรได้มีมติอนุมติให้ดำเนินการแล้ว แต่ติดปัญหาอยู่ที่กระทรงการคลังที่ตั้งข้อสังเกตและเสนอแนะ ขอให้สำนักงาน กฟก.คำนึงถึงภาระงบประมาณ พร้อมทั้งผลกระทบที่จะตามมาจากการดำเนินการ ซึ่งหลังจากรับหนังสือจากผู้แทนเกษตรกรแล้ว จะนำเรื่องรายงานต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ซึ่งเบื้องต้นได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว" นางรัชฎาภรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ สำนักงาน กฟก.มีภารกิจสำคัญ คือ การฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรและแก้ปัญหาหนี้สินให้เกษตรกร จากการดำเนินงานก้าวสู่ปีที่ 30 กองทุนฟื้นฟูฯ ได้มีบทบาทในการส่งเสริมและสนับสนุนการรวมกลุ่มของเกษตรกรเพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรม เน้นการเสริมสร้างรายได้ ลดรายจ่าย ให้กับพี่น้องสมาชิกเกษตรกรกองทุนฟื้นฟูฯ รายย่อย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น