นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) พร้อมด้วย และ ภญ.สุนัยนา กิจเกษตรไพศาล ผู้จัดการทั่วไป แซดพี เทอราพิวติกส์ บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา ประเทศไทย จำกัด ได้ร่วมแถลงข่าวการติดตามการส่งมอบวัคซีนโมเดอร์นา
นพ.เฉลิม กล่าวว่า สมาคมโรงพยาบาลเอกชนได้ประสานงานร่วมกับองค์การเภสัชกรรมมาโดยตลอด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ตารางกำหนดระยะเวลาการนำเข้ามา จากที่ทาง บ.ซิลลิคฯ เคยแจ้งไว้ว่าจะมาวันที่ 15 ต.ค.64 ทำให้ประชาชนสอบถามไปที่โรงพยาบาลต่างๆ เพราะต้องติดต่อโดยตรงกับลูกค้าหนึ่งต่อหนึ่ง นั่นหมายถึงต้องติดต่อลูกค้า 3.9 ล้านคน จึงทำให้ยากลำบากต่อการจัดการ
แต่เมื่อวัคซีนมาล่าช้า ดังนั้น กลุ่มโรงพยาบาลเอกชนจึงได้เปิดให้สามารถเลื่อนการฉีดวัคซีนและโอนสิทธิได้ แต่คงไม่สามารถตอบได้ว่าวัคซีนจะเข้ามาถึงอย่างชัดเจนเมื่อใด เพราะขณะนี้ล่วงเลยมาถึงไตรมาส 4 แล้ว และอีกไม่กี่วันจะเข้าเดือน พ.ย.แล้ว ซึ่งทางสมาคมฯ ก็เข้าใจความคาดหวังจากผู้บริโภค ดังนั้น ความชัดเจนต้องอยู่ที่ทางโมเดอร์น่า จึงอยากฝากให้ทางซีลลิคฯ ชี้แจงให้ชัดเจน
ด้าน ภญ.สุนัยนา คาดว่าวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นา จำนวน 1.9 ล้านโดส มีกำหนดจะมาถึงประเทศไทยภายในไตรมาส 4/64 โดยจากกำหนดการล่าสุดที่ได้รับแจ้งจากโมเดอร์นา คาดว่าจะเริ่มส่งมอบวัคซีนครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน ส่วนวัคซีนที่เหลืออีก 6.8 ล้านโดส ซึ่งได้ลงนามในสัญญาการจัดหาวัคซีนไปแล้วนั้น คาดว่ายังคงสามารถส่งมอบได้ในไตรมาส 1/65
ด้วยสถานการณ์ที่ความต้องการวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับสูง แซดพี เทอราพิวติกส์ รวมทั้งโมเดอร์น่า กำลังพยายามหาทางเลือกอื่นๆ ที่อาจเป็นไปได้ เพื่อทำให้บริษัทฯ สามารถส่งมอบวัคซีนให้แก่ประเทศไทยได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการรอเอกสารเพิ่มเติมจากโมเดอร์น่าสำหรับแหล่งผลิตในสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินการยื่นขออนุมัติต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) เพี่อเป็นแหล่งผลิตสนับสนุนเพิ่มเติมต่อไป
บริษัทฯ ขอยืนยันว่า ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรจากทุกภาคส่วนเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะสามารถส่งมอบวัคซีนที่เพียงพอให้แก่ประชาชนชาวไทยได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ด้านนพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมและสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ได้กำชับและติดตามเร่งรัดอย่างต่อเนื่องกับบริษัทซิลลิคฯ ให้มีการส่งมอบตามกำหนดการเดิมที่เคยแจ้งไว้ ในช่วงกลางเดือน ต.ค.โดยซิลลิคฯแจ้งว่าได้พยายามหาแหล่งผลิตอื่นเพิ่มเพื่อมาทดแทนแหล่งผลิตเดิมที่ได้รับอนุญาตจาก อย. โดยเฉพาะแหล่งผลิตประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงการติดตามกำหนดการและแผนการส่งมอบที่ชัดเจน ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลดังกล่าวแล้วองค์การเภสัชกรรมและสมาคมโรงพยาบาลเอกชนจะได้เร่งดำเนินการกระจายวัคซีนตามสัดส่วนที่โรงพยาบาลได้จองไว้ให้ได้โดยเร็วที่สุด