ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,486 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 9,577 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 700 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 167 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 42 ราย มาจากสวีเดน 34 ราย เยอรมนี สหรัฐอเมริกา โดมินิกัน ประเทศละ 1 ราย กัมพูชา 3 ราย เมียนมา 2 ราย (ช่องทางธรรมชาติ)
ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 3,577 ราย
- เสียชีวิต 94 ราย แยกเป็นเพศชาย 56 ราย เพศหญิง 38 ราย อายุระหว่าง 27 - 106 ปี (อายุเฉลี่ย 71 ปี) โดยผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มี 72 ราย คิดเป็น 77% ส่วนอายุน้อยกว่า 60 ปี และมีโรคเรื้อรัง 16 ราย คิดเป็น 17% ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 5 ราย คิดเป็น 5% และตั้งครรภ์ 1 ราย คิดเป็น 1% อายุ 37 ปี จากปัตตานี เป็นโรคอ้วนและไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 1,762,190 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 10,711 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 18,123 ราย
จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 1,054 ราย, ยะลา 767 ราย, ปัตตานี 644 ราย, สงขลา 605 ราย, นราธิวาส 494 ราย, นครศรีธรรมราช 488 ราย, ชลบุรี 434 ราย, สมุทรปราการ 379 ราย, ราชบุรี 299 ราย และ เชียงใหม่ 233 ราย
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า การติดเชื้อในจังภาคใต้ มีการรายงานว่าจากการสอบสวนโรค พบว่า จากที่เริ่มพบผู้ติดเชื้อในแคมป์คนงาน จากโรงงาน ตอนนี้ลักษณะการระบาดแพร่กระจายไปยังครอบครัว และชุมชน ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับ กทม.และปริมณฑล จึงต้องเน้นย้ำไปยังจังหวัดทางภาคใต้ขอให้มีการเฝ้าระวัง สอบสวนโรคให้รวดเร็ว
สำหรับการแพร่ะระบาดที่จ.เชียงใหม่ เป็นอีกจังหวัดที่ ศบค.ชุดเล็กมีความเป็นห่วง เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อทั้งในตลาด โรงงาน สถานศึกษา และบ้านพักเด็ก และยังพบผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ต่างๆ ทั้งแคมป์ก่อสร้างที่ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์ และในโรงพยาบาลที่อุบลราชธานี งานเลี้ยงเกษียณที่ตรัง งานศพที่ขอนแก่น ค่ายทหารที่ชลบุรี ล้งผลไม้ที่จันทบุรี และแรงงานไทยเก็บถั่วแระ ที่ลำพูน
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค.มีความเป็นห่วงในเรื่องการจัดเลี้ยงและการรวมกลุ่ม การทำกิจกรรมตามประเพณี โดยเฉพาะการทอดกฐิน และเทศกาลลอยกระทง ซึ่งสามารถจัดงานได้ แต่มาตรการสาธารณสุขต้องเข้มงวด จึงฝากเน้นย้ำไปที่ประชาชนขอให้เพิ่มความระมัดระวังตัวด้วย
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ศปก.ศบค. ได้มีการหารือแผนการรองรับประเทศในส่วนของการใช้ Thailand Pass ซึ่งเมื่อก่อนจะใช้ COE แต่ในขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุข กำลังพิจารณาร่วมกันที่จะใช้ Thailand Pass เพื่อใช้สำหรับคนที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม
ทั้งนี้ มี 2 ประเทศ ที่มีการส่งฐานข้อมูลการฉีดวัคซีนมาแล้ว เมื่อมีการเดินทางเข้ามาในไทยสามารถตรวจสอบได้เลยว่า มีผลการฉีดวัคซีนที่ประเทศต้นทางแล้วแน่นอน ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการขออนุญาตเข้าประเทศไทย จากเดิมใช้เวลา 3-6 วัน จะลดเหลือ 1-3 วัน ซึ่งให้ติดตามรายละเอียดจากทางกระทรวงสาธารณสุข
ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 240,383,902 ราย เสียชีวิต 4,896,169 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 45,639,012 ราย อันดับ 2 อินเดีย 34,036,684 ราย อันดับ 3 บราซิล 21,612,237 ราย อันดับ 4 สหราชอาณาจักร 8,317,439 ราย และอันดับ 5 รัสเซีย 7,892,980 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 24