นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ (ศบค.ส่วนหน้า) โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการฯ นั้นว่า เป็นการบูรณาการความร่วมมือต่างๆ ด้านการสาธารณสุข การตั้ง ศบค.ส่วนหน้าก็เพื่อขอความร่วมมือด้านความมั่นคง เฝ้าระวังคนเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นความเสี่ยงการนำเชื้อภายนอกเข้าประเทศ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนเองและปลัด สธ.ได้ลงพื้นที่ โดยในพื้นที่มีความเพียงพอทั้งเวชภัณฑ์ ยา โดยภายในเดือน ต.ค.64 จะต้องฉีดวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายให้ครบ โดยกรมควบคุมโรคจะจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ไปให้อีก 4.8 แสนโดส ก็จะครบ 1 ล้านโดส ทำให้มั่นใจว่าประชาชนจะมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น สถานการณ์จะดีขึ้น
"การตั้ง ศบค.ส่วนหน้าขึ้นมาตรงนี้มีการแบ่งงานชัดเจน กระทรวงสาธารณสุขดูแลเรื่องสุขภาพ แต่เรื่องการควบคุมไม่ให้ลักลอบเข้าเมือง ควบคุมพื้นที่ให้ปลอดภัยสูงสุด เราจำเป็นต้องพึ่งพาฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี" นายอนุทิน กล่าว
ส่วนความกังวลเรื่องนโยบายเปิดประเทศ ทางกระทรวงฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมแล้ว การเดินทางเข้าประเทศก็ต้องเป็นไปตามที่กำหนด เช่น ต้องมีผลตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบโดส มีใบรับรอง Fit-to-fly และเมื่อเดินทางถึงไทยต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำอีกครั้งโดย 1 คืนแรกจะต้องพักรอผลตรวจในพื้นที่ที่เราติดตามได้ จากนี้ เมื่อตัดสินใจจะผลักดันนโยบาย ก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนมากขึ้น