นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 64 ได้มีมติอนุมัติในหลักการปรับปรุงหลักเกณฑ์เพิ่มเติมรองรับการทำประกันสุขภาพสำหรับชาวต่างด้าวผู้ขอรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว Non-Immigrant Visa รหัส O-A (ระยะ 1 ปี) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอ โดยกำหนดให้ชาวต่างด้าวผู้ขอรับการตรวจลงตราสามารถซื้อประกันสุขภาพจากต่างประเทศ หรือมีสวัสดิการภาครัฐจากต่างประเทศได้ และปรับวงเงินประกันสุขภาพจากเดิมผู้ป่วยนอก 40,000 บาท ผู้ป่วยใน 400,000 บาท เปลี่ยนเป็นมีวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และมีประกันที่ครอบคลุมการรักษาโรคโควิด 19 ไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 3,000,000 บาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อสร้างความมั่นใจ ให้กับชาวต่างด้าวที่จะเข้ามาให้ได้รับการคุ้มครองและดูแลตลอดระยะเวลาที่พำนักในราชอาณาจักร
นายสาธิต กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพระดับโลก (Medical Hub) มีการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย นวดไทย สปา และพัฒนาศักยภาพของสถานบริการสุขภาพทั้งรัฐและเอกชนทุกระดับ รวมถึงสถานประกอบการเพื่อสุขภาพให้ได้คุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับระดับสากล เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าประเทศเพิ่มมากขึ้น
ที่ผ่านมามีผู้สูงอายุขอรับการตรวจลงตราเข้ามาพำนักระยะยาว (Long Stay) ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี รวม 3,768 ราย (ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกรมการกงสุล พ.ศ.2563-2564)
ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า สำหรับหลักเกณฑ์การขอรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว ระยะเวลา 1 ปีจะใช้สำหรับชาวต่างด้าวผู้สูงอายุที่ไม่สามารถซื้อประกันในประเทศไทยได้, ผู้ที่แบบฟอร์มการรับรองการซื้อประกันในต่างประเทศไม่สอดคล้องกับระบบธุรกิจประกันภัย/สิทธิประโยชน์จากกองทุนต่างๆ และ ผู้ที่ยื่นต่ออายุวีซ่าครั้งที่สอง (Extend) ประสงค์จะขอใช้ประกันสุขภาพจากต่างประเทศ จะช่วยลดปัญหาของผู้ขอรับการตรวจลงตราที่ไม่สามารถยื่นต่อวีซ่าครั้งที่สองได้ รวมทั้งเป็นการยกระดับและคัดกรองชาวต่างด้าวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย