นายบุญมา พลธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่จะกลับมาสูงเกินค่ามาตรฐานอีกครั้งในช่วงปลายปี โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
บริษัทฯ เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว และในฐานะผู้บริหารแบรนด์สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น (PTT Station) โออาร์ พร้อมจำหน่ายน้ำมันอัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล (UltraForce Diesel) สูตรพิเศษที่มีกำมะถันต่ำเทียบเท่ากับน้ำมันยูโร 5 โดยมีค่ากำมะถันต่ำเฉลี่ยประมาณ 10 PPM ซึ่งต่ำกว่าค่าที่กฎหมายกำหนด (50 PPM) ถึงประมาณ 5 เท่า โดยร่วมมือกับโรงกลั่นน้ำมันของ บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (GC) ในการกลั่นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วกำมะถันต่ำและนำมาผลิตเป็นน้ำมันอัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล สูตรพิเศษที่คลังน้ำมันพระโขนงเพื่อจ่ายให้กับสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมกว่า 400 สถานี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 - 31 มีนาคม 2565 รวมทั้งจ่ายให้กลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม และหน่วยงานราชการ
นายบุญมา กล่าวว่า เมื่อเทียบในสัดส่วนไบโอดีเซลที่เท่ากันการเปลี่ยนจากน้ำมันดีเซลพื้นฐานยูโร 4 มาเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วกำมะถันต่ำนี้ จะช่วยทำให้ปริมาณกำมะถันในน้ำมันลดลง และส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละลองขนาดเล็ก (PM2.5) ลดลง 19-21% และควันดำลดลง 19-40% (จากผลการทดสอบของสถาบันนวัตกรรม ปตท. ในรถกระบะรุ่นเก่าอายุรถ 8 ปี และรถกระบะรุ่นใหม่ อายุรถ 3 ปี) โดยรถยนต์เก่าสามารถเติมน้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำสูตรพิเศษได้โดยไม่มีผลกระทบกับเครื่องยนต์
พร้อมเชิญชวนผู้ใช้รถนำรถเข้าตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ฟรี 35 รายการ พร้อมรับบริการเติมลมไนโตรเจนและเช็ดฆ่าเชื้อโควิด-19 บริเวณ 4 จุดสัมผัส โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ศูนย์บริการยานยนต์ฟิต ออโต้ 68 สาขาทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ปัจจุบันสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ยังจำหน่ายน้ำมันเกรดพรีเมียม อัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล พรีเมียม (UltraForce Premium Diesel) ที่สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น กว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งเป็นน้ำมันที่ได้มาตรฐานยูโร 5 (Euro 5) จึงเป็นน้ำมันที่มีกำมะถันต่ำ และยังมีคุณสมบัติที่แรงกว่า และสะอาดกว่าน้ำมันดีเซลสูตรปกติอีกด้วย