นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังรับหนังสือและหารือร่วมกับสมาคมการค้าผู้ประกอบการร้านค้าสัญจร และสมาคมผู้ประกอบการร้านค้างานประเพณีและสวนสนุก ที่มีผู้ประกอบอาชีพนี้กว่า 1 แสนรายทั่วประเทศว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้รับทราบข้อมูลและปัญหาความเดือดร้อนจากการหยุดกิจการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ประชาชนเข้าใจเรื่องการป้องกันตนเอง ให้ความร่วมมือ และได้รับวัคซีนครอบคลุมในกลุ่มเป้าหมาย รัฐบาลจะเริ่มผ่อนปรนให้กิจการที่มีความเสี่ยงต่ำเริ่มดำเนินการก่อน
นายวัชรพงศ์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้นำเสนอแนวทางปรับมาตรการด้านสังคมภายในประเทศ ผ่านที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และได้เห็นชอบในหลักการตามที่เสนอ เพื่อผ่อนคลายมาตรการให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ในกิจการที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุมสัมมนา การจัดศูนย์แสดงสินค้า นิทรรศการ ในห้างและนอกห้าง โดยแบ่งเป็นช่วงระยะเวลา เพื่อทยอยเปิดกิจการ คือ
ช่วงแรก 16 - 31 ตุลาคม 2564 เป็นการนำร่องจัดกิจกรรมได้ไม่เกิน 500 คน
ระยะที่ 2 วันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2564 สามารถจัดประชุม งานมหกรรมกีฬาและงานแสดงสินค้า งดการชิมอาหาร ทั้งนี้ไม่เกิน 500 คน
ระยะที่ 3 วันที่ 1- 31 ธันวาคม 2564 จัดงานประเพณี งานแสดงสินค้า กิจกรรมส่งเสริมการขายในห้างและนอกห้าง และชิมอาหารได้ ไม่เกิน 1,000 คน
ระยะที่ 4 วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป สามารถจัดกิจกรรมได้ตามสถานการณ์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและรองรับการเปิดประเทศ เพื่อให้คนไทยสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งคาดว่าถ้าไม่เกิดเหตุการณ์อะไร ก็น่าจะสามารถเดินตามแผนการตามระยะต่าง ๆ ที่วางไว้ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ที่มติจาก ศบค.
อย่างไรก็ตาม การดำเนินกิจกรรมหรือกิจการใด ๆ ก็ตาม ยังคงอยู่ภายใต้คณะกรรมการควบคุมโรคระดับจังหวัด ทั้งนี้ให้สมาคมฯ ประสานกับพื้นที่ เพื่อขอเปิดกิจการภายใต้การควบคุมป้องกันโรคโควิด 19 เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมกับการป้องกัน กลับมาสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด หากเปิดกิจการได้ ยังคงขอความร่วมมือให้เคร่งครัดดำเนินการตามมาตรการป้องกันควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดการระบาดซ้ำ และให้ประชาชนดำเนินชีวิตปกติแบบวิถีใหม่