พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.ชุดใหญ่) ถึงการเตรียมการเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ว่า ขอความร่วมมือจากประชาชนและผู้ประกอบการใน 4 เรื่อง ประกอบด้วย
1.ขอให้ทุกคนทุกส่วนต้องระมัดระวังเต็มที่ และใช้มาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเต็มที่ และมีวินัยในตัวเองไม่เป็นผู้แพร่เชื้อออกไปอีก
2.ยังคงกำหนดมาตรการกักตัว สำหรับผู้ที่เดินทางจากทางบกและทางน้ำไว้ก่อน และเจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวดกวดขัน ป้องกันลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดน และดำเนินการตามกฏหมาย เช่นเดียวกันกับการค้าขายตามแนวชายแดนจะทยอยเปิดให้ แต่ต้องเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย มีมาตรการขนส่งสินค้าระหว่างกัน
3.ให้มีเตรียมแผนเผชิญเหตุให้พร้อมในการรักษาและพื้นที่กักตัวต่างๆ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจรุนแรง พร้อมทั้งสั่งการเร่งรัดจองยาโมลโนพิราเวียร์ เพื่อไม่ให้ไทยตกอยู่ท้ายแถวในการใช้ยาที่ผลิตมาใหม่ พร้อมขอความร่วมมือหลายประเทศ ที่วิจัยยาประเภทนี้และจองไว้ก่อน และควบคู่กับการจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ให้เพียงพอ และเร่งรัดหายาแผนไทย เช่น ฟ้าทะลายโจรเพิ่มเติมด้วย
4.จากการเปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์นักท่องเที่ยวมากว่า 40,000 คน ซึ่งไทยจำเป็นต้องประกาศให้ต่างประเทศรู้ถึงความพร้อมของไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้วางแผนและเตรียมการ เพื่อให้ไทยเป็นประเทศแรกๆที่จะพิจารณาเดินทางในช่วงปลายปีนี้
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ขอความร่วมมือผู้ที่เห็นต่าง หรือผู้ที่ออกมาชุมนุมบนท้องถนน อย่าสร้างภาพความเสียหายต่อประเทศ เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวกังวลและไม่กล้าเดินทางมาท่องเที่ยว สิ่งสำคัญที่รัฐบาลคิดอยู่ คือ การทำให้ประชาชนสามารถทำมาหากินได้ปกติ และเพิ่มการจ้างงาน เพิ่มรายได้ให้กับทุกกิจการ