นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี , นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต และคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่จังหวัด เชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์และมาตรการควบคุมป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19)ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางไปที่สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่รับฟังบรรยายสรุปการดำเนินการและมาตรการควบคุมป้องกันโรคระบาด จากนั้นได้เข้าตรวจเยี่ยมการเปิดตลาดเมืองใหม่ ภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันโรคของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนลงพื้นที่ชุมชนป่าแพ่ง ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนเชิงรุกและการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกด้วยชุดตรวจATKในชุมชนแออัด จากนั้น เดินทางต่อไปที่มูลนิธิเด็กกำพร้า บ้านกิ่งแก้ว วิบูลสันติ เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจสำหรับเด็ก โดยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก่อนเดินทาง ต่อไปที่โรงพยาบาลสวนปรุง เพื่อตรวจเยี่ยมการดูแลและรักษาติดเชื้อโควิด-19 แบบครอบครัว และการดำเนินการแยกกักตัวผู้ป่วย
ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ นายอนุทิน กล่าวว่า มั่นใจว่าทุกหน่วยงานทำเต็มที่เพื่อแก้ไขสถานการณ์ ด้วยการร่วมแรงร่วมใจ สถานการณ์จะต้องคลี่คลายในที่สุด ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ มีประชากรอาศัยอยู่มาก และเป็นจำหวัดที่จะเปิดเพื่อการท่องเที่ยว เราต้องทำเต็มที่ ส่วนกรณีที่มีความเป็นห่วงกังวลกันเรื่องเตียงผู้ป่วยในจังหวัดจะไม่เพียงพอ ตรงนี้ขอเรียนชี้แจงว่า เรายังมีเตียงในจังหวัดรอบข้างพร้อมรองรับ แต่ขณะนี้ ได้กำลังเร่งเอาระบบการกักตัวที่บ้าน และการกักตัวที่ชุมชนมาใช้ เพื่อสำรองเตียง ไว้สำหรับผู้ป่วยอาการปานกลงขึ้นไป เพื่อลดความสูญเสีย ส่วนความเครียดของผู้ปฏิบัตงาน ตนและคณะผู้บริหาร พร้อมรับฟัง และจะหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่พวกท่านประสบ ที่สุดแล้ว ต้องขอบคุณ ความทุ่มเทของทุกท่าน
เมื่อถามถึงนโยบายของภาครัฐ ที่กำหนดให้เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่ต้องเปิดรับนักท่องเที่ยว นายอนุทิน กล่าวว่า ทางส่วนกลาง และทางจังหวัด ได้เตรียมการเอาไว้แล้ว ทั้งระบบ บุคลากร เวชภัณฑ์ และสถานที่ แต่การควบคุมโรคระบาด ต้องพึ่งพาความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ถึงจะสำเร็จ ทั้งนี้ วัคซีน ยังเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะช่วยลดอัตราการป่วย และเสียชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในเดือนพฤศจิกายน จะระดมวัคซีนลงพื้นที่อีก 7 แสนโดส เพื่อเร่งฉีดประชาชนให้เกิดความครอบคลุมสูงสุด ตามแผนการคือภายในเดือนพฤศจิกายน ประชาชนที่เข้าเกณฑ์ได้รับวัคซีนทุกคน ต้องได้รับวัคซีน เมื่อประชาชนได้รับวัคซีนทั่วถึงแล้วจะส่งผลให้สถานการณ์ดีขึ้น
"ในเดือน พ.ย.64 นี้ จะมีการจัดสรรวัคซีนให้จังหวัดเชียงใหม่ 700,000 โดส เพื่อฉีดให้ประชาชนอย่างครอบคลุมทั่วถึง และจนครบ100%ของผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีน ให้เชียงใหม่ เป็นจังหวัดตัวอย่างที่ประชาชนได้ฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วน เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน จะส่งผลให้สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามประชาชนยังมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกัน หรือ การเว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัย"