พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงพร้อมสนับสนุนนโยบายเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ โดย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้ย้ำถึงนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่กำชับต่อทุกเหล่าทัพให้กองกำลังป้องกันชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำยังคงตรึงกำลังเข้มเฝ้าระวังชายแดน สกัดกั้นการลักลอบเข้าเมือง ยาเสพติด อาวุธสงคราม และสินค้าผิดกฏหมายบริเวณพื้นที่ชายแดนรอบประเทศต่อเนื่องกันไป โดยเฉพาะชายแดนเมียนมาและกัมพูชาที่พบการลักลอบเข้าเมืองมากขึ้นตามลำดับ
โดยให้ทุกเหล่าทัพประสานการทำงานร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสกัดกั้นและปราบปรามขบวนการลักลอบนำพาคนต่างด้าวเข้าเมืองในพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นใน พร้อมทั้งให้การสนับสนุน แนะนำ และช่วยกำกับการปฏิบัติของประชาชนให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคที่กำหนด ทั้งนี้ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ ไม่ประมาท และเตรียมให้การสนับสนุนมาตรการจำกัดควบคุมโรคเร่งด่วนเป็นพื้นที่ หากมีปัญหาการแพร่ระบาดเป็นกลุ่ม สำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง ขอให้ยังคงร่วมกันสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อรับวัคซีนและลดพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจเป็นปัญหาต่อการควบคุมโรค
โฆษกกระทรวงลกาโหม กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการหยุดจ้างแรงงานผิดกฎหมายเข้าทำงาน เนื่องจากไม่ผ่านการคัดกรองควบคุมโรค ซึ่งจะสร้างปัญหาการกลับมาแพร่ระบาดและความเสียหายต่อส่วนรวมระยะยาวในสถานการณ์และโอกาสที่เรากำลังเปิดประเทศและกลับมาใช้ชีวิตปกติในวิถีใหม่ร่วมกัน
ในภาพรวมของการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายยังคงมีการทำเป็นขบวนการ โดยมีต้นทางจากผู้ประกอบการหรือเจ้าของกิจการที่เห็นแก่ได้ แจ้งความต้องการแรงงานเถื่อนไปยังตัวแทนหรือนายหน้าที่จัดตั้งแฝงในรูปบริษัทมีการส่งต่อไปยังผู้นำพาทั้งฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้านนำพาเข้า มีผู้ให้ที่พักพิงหลบซ่อนและเคลื่อนย้ายนำส่งพื้นที่เป้าหมายชั้นใน บางขบวนการมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเอื้อประโยชน์และรับส่วยรายหัว มีการกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งขณะนี้ฝ่ายข่าวกำลังติดตามและสืบจากผู้นำพาที่จับได้ถึงความเชื่อมโยงกับผู้เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.64 ถึงปัจจุบัน ฝ่ายความมั่นคงได้ร่วมกันสกัดกั้นและจับกุมคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายได้แล้ว 30,343 คน เป็นผู้นำพาและให้ที่พักกว่า 100 คน ส่วนใหญ่จับกุมได้บริเวณชายแดนติดประเทศเมียนมาบริเวณพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตาก กาญจนบุรี และชายแดนประเทศกัมพูชาในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และหลังเปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมในพื้นที่ชั้นในสามารถพบและจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายมากขึ้น ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญขยายผลสืบสวนกรณีเป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีโอกาสสูงที่จะเข้าสู่การบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์ รวมทั้งให้ทำลายโครงสร้างขบวนการลักลอบนำพาต่างด้าวเข้าเมืองและให้โยงเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องทุกราย