นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเตรียมความพร้อมที่จะเปิดประเทศในวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ดูความเรียบร้อยของสถานที่ เส้นทางการเดินทางของนักท่องเที่ยวในภาพรวม และให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ตรวจสอบความพร้อมมาตรการรองรับและติดตามการเข้า-ออกของผู้โดยสารที่เดินทางมายังสนามบินสุวรรณภูมิ ตลอดจนสนามบินอื่นๆ ที่เปิดให้มีการบินเข้าจากต่างประเทศเข้ามา นอกจากนี้ยังให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขสอดส่องดูแลทุกภาคส่วนให้ปฏิบัติตามมาตรการผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมของ ศบค.เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดยังไม่อนุญาตให้มีการดี่มและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารทั่วไป ส่วนในกรุงเทพมหานครอนุญาตให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะร้านที่ผ่านมาตรฐาน SHA ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และไม่เกินเวลา 21.00 น.เท่านั้น
นายกรัฐมนตรียังขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว (พื้นที่สีฟ้า) จัดทีมงานช่วยตรวจตราดูแลสถานประกอบการ ร้านค้า ตลาด และชุมชน ให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างเข้มงวด ถึงแม้จะมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากประเทศความเสี่ยงต่ำแบบไม่กักตัวหรือจำกัดพี้นที่เพิ่มเติมเป็น 63 ประเทศ แต่รัฐบาลยังให้ความสำคัญสูงสุดในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศ เช่นเดียวกับประชาชนยังยึดหลักอนามัยส่วนบุคคลและดูแลตัวเองแบบครอบจักรวาล Universal Prevention
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ติดตามความเรียบร้อยสำหรับโรงเรียนที่มีความพร้อมในการเปิดการเรียนการสอนปกติในวันพรุ่งนี้ด้วย โดยย้ำให้ยกระดับการป้องกันไวรัสโควิด ให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) สำหรับเด็กนักเรียน ครู และบุคลากรภายในโรงเรียนด้วย แม้ทิศทางของการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจะอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ขอให้ทุกฝ่ายอย่าประมาท พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐอย่างเคร่งครัด และขอบคุณประชาชน ภาคเอกชน สถานประกอบการ ทุกๆ ฝ่ายที่ร่วมใจกันเดินหน้าประเทศไทย ซึ่งในขณะนี้กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี