(เพิ่มเติม) ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 7,679 ราย ATK 2,376 ตาย 56 ราย

ข่าวทั่วไป Wednesday November 3, 2021 13:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

(เพิ่มเติม) ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 7,679 ราย ATK 2,376 ตาย 56 ราย

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,679 ราย ประกอบด้วย

  • ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 6,864 ราย
  • จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 272 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 536 ราย
  • ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 7 ราย มาจากกัมพูชา 4 ราย (ช่องทางธรรมชาติ) เมียนมา 2 ราย (ช่องทางธรรมชาติ) และสหราชอาณาจักร 1 ราย

ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 2,376 ราย

  • เสียชีวิต 56 ราย เป็นชาย 28 ราย หญิง 28 ราย อายุเฉลี่ย 73 ปี (37 - 94 ปี) เป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 42 ราย คิดเป็น 75% ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 11 ราย คิดเป็น 20% และไม่มีโรคเรื้อรัง 3 ราย คิดเป็น 5%

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 1,935,442 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 8,482 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 19,394 ราย

จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 772 ราย, ปัตตานี 484 ราย, สงขลา 454 ราย, ยะลา 326 ราย, ชลบุรี 324 ราย, เชียงใหม่ 322 ราย, ตรัง 249 ราย, สมุทรปราการ 242 ราย, นราธิวาส 207 ราย และ นครศรีธรรมราช 196 ราย

พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า แนวโน้มการติดเชื้อของประเทศลดลงทุกพื้นที่อย่างชัดเจน แต่ยังพบผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ต่างๆ ได้แก่ ทหารเกณฑ์ในกองทัพเรือ 30 ราย ที่ชลบุรี แคมป์ก่อสร้าง 17 ราย / ศูนย์พัฒนาการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ 8 ราย และตรวจเชิงรุกอีก 35 ราย ที่เชียงใหม่ และพบในงานศพ และหอพักนักเรียน ที่แม่ฮ่องสอน และในเรือนจำ ที่สุรินทร์ ขอนแก่น และ กทม. รวมถึงมีผู้ติดเชื้อที่เป็นแรงงานลักลอบข้ามแดน ที่จันทบุรีด้วย จึงขอความร่วมมือประชาชนเข้มงวดมาตรการส่วนบุคคลและเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมมากที่สุดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

สำหรับผู้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. มีจำนวน 2,013 ราย เข้าระบบไม่กักตัว 1,769 ราย เข้าระบบแซนด์บ๊อกซ์ 79 ราย และเข้าระบบกักกัน 165 ราย แบ่งเป็นเข้าระบบกักกัน 7 วัน 64 ราย และเข้าระบบกักกัน 14 วัน 101 ราย รวมผู้เดินทางเข้ามาตั้งแต่วันที่ 1-2 พ.ย. รวมทั้งสิ้น 4,510 ราย และ 5 อันดับผู้เดินทางเข้าประเทศสูงสุด ได้แก่ 1.ญี่ปุ่น 2.สิงคโปร์ 3.เยอรมนี 4.กาตาร์ 5.จีน โดยมีการตรวจคัดกรองด้วย RT-PCR และพบผู้ติดเชื้อในระบบไม่กักตัว 3 ราย และพบผู้ติดเชื้อจากประเภที่ต้องกักกันอีก 3 ราย

พญ.สุมนี กล่าวว่า ยังคงต้องจับตาสถานการณ์ในจังหวัดเชียงใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ที่อำเภอแม่ริม อำเภอเมือง อำเภอแม่แตงและอำเภอดอยเต่า โดยทางกระทรวงสาธารณสุขได้ลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์ความพร้อมในพื้นที่ พบว่า การติดเชื้อเป็นลักษณะวงกว้าง ระบาดในระดับชุมชนไปสู่ครอบครัวและตลาดสด ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคมเป็นต้นมา ซึ่งตลาดที่ต้องเฝ้าระวังมี 4 แห่ง คือ ตลาดเมืองใหม่ ตลาดวโรรส ตลาดประตูเชียงใหม่ และตลาดสันป่าข่อย จึงได้กำหนดมาตรการให้ผู้ประกอบการในตลาดและผู้ที่จะเข้าใช้บริการต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เข้มงวดการจัดสถานที่ ลดความแออัดและให้ฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมมากที่สุด

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้เร่งค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกวันละ 3,000-5,000 รายต่อวัน และตั้งจุดตรวจคัดกรองสี่มุมเมือง และปรับมาตรการให้เข้มงวด โดยห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร รวมถึงจำกัดเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านสะดวกซื้อ หลังเวลา 21.00 น. เป็นต้นไป และเน้นประชาสัมพันธ์ให้สถานประกอบการในพื้นที่เข้าสู่ระบบ SHA+ เพื่อการควบคุมโรคและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป

นอกจากนี้ ศบค.ได้ติดตามการควบคุมโรคโควิด-19 ในสถานศึกษา ภายหลังเปิดภาคเรียนอย่างใกล้ชิด โดยเน้นย้ำมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพราะเป็นห่วงว่า เด็กอาจนำเชื้อไปแพร่สู่คนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และขอให้ผู้ปกครองหมั่นสังเกตุอาการบุตรหลาน หากพบว่ามีอาการเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ให้รีบตรวจคัดกรอง ATK ทันที ส่วนกรณีนักเรียนอายุ 12 ปี ได้รับวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรก แล้วมีอาการทรุดหนักนั้น เบื้องต้นพบว่าอาการไม่ได้เกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และอาการเริ่มดีขึ้นแล้ว พร้อมยืนยันว่า วัคซีนที่นำมาฉีดในประเทศไทย มีความปลอดภัย ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก

พร้อมย้ำถึงการจัดงานทอดกฐินและเทศกาลลอยกระทงในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ว่า การจัดกิจกรรมต่างๆในช่วงนี้เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และเพื่อให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติภายใต้วิถีชีวิตใหม่ ดังนั้น ไม่ว่าจัดงานประเพณีใดๆ ขอให้จัดงานตามความเหมาะสม ภายใต้มาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 248,277,684 ราย เสียชีวิต 5,028,499 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 46,999,026 ราย อันดับ 2 อินเดีย 34,306,177 ราย อันดับ 3 บราซิล 21,821,124 ราย อันดับ 4 สหราชอาณาจักร 9,130,857 ราย และอันดับ 5 รัสเซีย 8,593,200 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 24


แท็ก เรือนจำ   ศบค.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ