นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากการสำรวจอนามัยโพล ความคิดเห็นของประชาชน 4,528 คน (ตั้งแต่วันที่ 1-31 ต.ค. 64) ในประเด็น "ผลการปฎิบัติตนตามหลักการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention -UP) เปรียบเทียบพื้นที่นำร่องใน 17 จังหวัดท่องเที่ยว และพื้นที่อื่นๆ ใน 60 จังหวัด" พบว่า สถานประกอบการในพื้นที่ท่องเที่ยว 17 จังหวัด ผ่านการประเมิน COVID Free Setting ทั้งหมด 3,068 แห่ง จากที่ลงทะเบียนทั้งหมด 3,192 แห่ง คิดเป็น 96%
ในส่วนของมาตรการส่วนใหญ่ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ คือ การฉีดวัคซีนของพนักงาน, การบริการเจลแอลกอฮอล์ประจำโต๊ะ, การจัดภาชนะ เครื่องปรุงเป็นชุด สำหรับลูกค้าในศูนย์อาหาร, การควบคุมกำกับติดตาม คัดกรองความเสี่ยง และระบบกรองอากาศเฉพาะที่
"ขอเน้นย้ำไปยังผู้ประกอบกิจการ กิจกรรม เมื่อมีการเปิดกิจการแล้ว ยังต้องดำเนินการตามมาตรการสำคัญต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจในการเดินทาง" นพ.สุวรรณชัย กล่าว
ส่วนกรณีที่มีการเปิดให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร จากการลงพื้นที่พบว่า ร้านอาหาร และประชาชนที่มาใช้บริการส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือดี อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อบางประการ ทั้งการดื่มเกินเวลาที่ประกาศไว้ มีประชาชนแออัดในพื้นที่ และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ละเลย หรือละเว้นการปฎิบัติตามาตรการได้ ทั้งนี้จะมีการเฝ้าระวังสุ่มตรวจเป็นระยะ 7-14 วัน และจะมีการประเมินความเหมาะสมต่อไป
"กรมอนามัยยังคงเน้นย้ำให้ทุกคนการ์ดไม่ตก ปฏิบัติตามมาตรการ UP อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งร่วมเป็นหู เป็นตา ให้กับกระทรวงสาธารณสุข ในการประเมิน แนะนำ ติชม และร้องเรียน สถานประกอบการให้ปฏิบัติได้ตามมาตรการ COVID Free Setting ได้ตามช่องทางที่กำหนด เพื่อให้การเปิดเมือง เปิดประเทศครั้งนี้ เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล ในการขับเคลื่อนประเทศ ให้ทุกคนใช้ชีวิต และท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย" นพ.สุวรรณชัย กล่าว