น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ได้รายงานต่อที่ประชุมครม.ว่า ตั้งแต่ 1 - 3 พ.ย.มีผู้เดินทางเข้าไทย 7,124 คนทั้ง 3 ระบบ ทั้งจากบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศความเสี่ยงต่ำ ผู้ที่เดินทางเข้าพื้นที่ Sandbox และผู้ที่ต้องเข้าสถานกักกันตัวตามระบบสาธารณสุข โดยพบว่า มีผู้ติดเชื้อโควิดเพียง 6 คน และได้รับการรักษาดูแลแล้ว ซึ่งไม่มีประเด็นใดที่ต้องกังวล
ทั้งนี้ในส่วนของการดูแลนักเดินทางนั้น ยอมรับว่า อาจจะเป็นบางช่วงเวลาที่มีคนเดินทางเข้ามามาก และเจ้าหน้าที่ทางสาธารณสุขยังมีจำนวนน้อย แต่ได้มีการเร่งจัดหาเจ้าหน้าที่เข้ามารองรับให้ทั่วถึงแล้ว ส่วนปัญหาการตรวจเอกสารในสนามบินไม่ครบถ้วนนั้น ทางรัฐบาลได้มีการประสานงานไปแล้วให้ต้นทางมีการตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วน
ขณะเดียวกัน เชื่อมั่นว่า การเปลี่ยนระบบการตรวจสอบผู้เดินทางเข้าประเทศจาก ระบบ COE มาเป็น Thailand Pass อย่างเต็มรูปแบบ ในวันที่ 8 พ.ย.นี้ จะช่วยคลี่คลายการตรวจสอบต่างๆ ให้รวดเร็วและครอบคลุมมากขึ้น
นอกจากนี้เรื่องการเปิดเทอมนั้น นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญไม่น้อยกว่าการเปิดประเทศอย่างที่มีคนกล่าวหา ซึ่งน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ได้รายงานให้ครม. รับทราบในหลายมิติ โดยเฉพาะเรื่องการฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการศึกษา เข็มที่ 1 กว่า 8 แสนคน เข็มที่ 2 กว่า 5 กว่าแสนคน และอีกกว่า 8 หมื่นคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขจะเร่งดำเนินการฉีดให้ครบถ้วน
ส่วนโรงเรียนที่เปิดแบบ on-site แล้ว ข้อมูล ณ วันที่ 1พ.ย.คือ 12,110 โรงเรียน จากโรงเรียนในสังกัดสพฐ. จำนวน 35,000 โรงเรียน ซึ่งจะมีการทยอยเปิดโรงเรียนให้เรียนแบบ on-site มากขึ้นในวันที่ 15 พ.ย.นี้