นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเทศไทย ได้รับแจ้งข่าวการบริจาควัคซีนโมเดอร์นาจากรัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านหน่วยงานกระทรวงการต่างประเทศ โดยมีหลักการว่าวัคซีนที่บริจาคให้รัฐบาลไทย ต้องอยู่ภายใต้สัญญารัฐต่อรัฐ คือ จะเป็นการลงนามในสัญญาระหว่าง US Department of Health and Human Services กับกรมควบคุมโรค อีกทั้งต้องมีการลงนามสัญญากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนด้วย
โดยมีสาระสำคัญ คือ ห้ามนำวัคซีนบริจาคไปแสวงหาผลประโยชน์ เช่น ต้องไม่มีการนำไปจำหน่ายต่อ นอกจากนี้ ถ้าหากวัคซีนบริจาคก่อให้เกิดผลเสียต่อผู้รับวัคซีน ภาครัฐจะต้องให้การดูแลรักษา โดยไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบ รวมถึงการชดเชยเยียวยาตามระเบียบที่กำหนด
"การบริจาควัคซีนจากประเทศใดให้กับอีกประเทศหนึ่ง ไม่ดำเนินการผ่านเอกชน เพราะไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ทั้งยังไม่สามารถกำกับ ติดตาม และรับผิดชอบผลกระทบได้อย่างครบถ้วน ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติสากลเกี่ยวกับวัคซีนบริจาคที่หน่วยงานสาธารณสุขประเทศต่างๆ ทั่วโลกยึดถือปฏิบัติ นับตั้งแต่เริ่มมีวัคซีนโควิด-19 การรับวัคซีนบริจาค จึงเป็นภารกิจของหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ในการปกป้องสุขภาพอนามัยของประชาชน ซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายโดยตรง" นพ.โอภาส กล่าว
พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมา ได้รับวัคซีนบริจาคจากต่างประเทศแล้วเกือบ 10 ล้านโดส จาก 8 ประเทศ โดยกรมควบคุมโรค เป็นหน่วยงานนำเข้าวัคซีนในกรณีเร่งด่วน และเป็นการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการต่างประเทศ ที่ไปช่วยเจรจากับรัฐบาลประเทศต่างๆ จึงมีรายละเอียดที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบของแต่ละประเทศ เช่น การขออนุญาตส่งออก ทำข้อตกลงกับบริษัทขนส่ง พิธีการศุลกากร ให้ครบถ้วนก่อนมาถึงประเทศไทย โดยไม่มีการดำเนินงานผ่านองค์กรเอกชนในประเทศผู้บริจาควัคซีนแต่อย่างใด