กรมปศุสัตว์ ยันไก่ไทยปลอดภัยไร้สารเร่งโต 100%

ข่าวทั่วไป Friday November 12, 2021 13:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า การเลี้ยงไก่ในประเทศไทยเป็นระบบอุตสาหกรรม ไม่มีการใช้ฮอร์โมน และการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างผิดวัตถุประสงค์ เพื่อเร่งการเจริญเติบโตในการเลี้ยงไก่ สำหรับกรณีมีเพจในเฟซบุ๊ก เผยแพร่ข้อมูลว่า มีการฉีดสารอะนาโบลิก สเตียรอยด์ (สารสังเคราะห์จากฮอร์โมน) ยาปฏิชีวนะ และฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตในไก่ ส่งผลทำให้ผู้บริโภคมีความเสี่ยงเป็นมะเร็ง และมีการแชร์คลิปการฉีดยาในไก่ทางสื่อโซเชียลต่อๆ กันโดยอ้างว่าเป็นการฉีดฮอร์โมนเร่งโตนั้น กรมปศุสัตว์ยืนยันว่าเป็นข่าวลวง ไม่มีข้อมูลความจริง

นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวว่า การเลี้ยงไก่ในปัจจุบันมีการพัฒนาด้านคุณภาพมาตรฐานระบบการเลี้ยง และปรับปัจจัยต่างๆ ที่ช่วยให้ไก่เติบโตได้ดีและมีสุขภาพแข็งแรง ประกอบด้วย การนำเทคโนโลยีมาใช้ปรับปรุงพันธุ์ไก่ ให้เป็นสายพันธุ์ที่โตเร็วมีความทนทานต่อโรค การมีระบบการป้องกันโรคที่ดี การเลี้ยงในโรงเรือนระบบปิดที่ทันสมัย มีการจัดทำฟาร์มมาตรฐาน GAP รวมทั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตอาหารที่มีสารอาหารเหมาะสมกับช่วงวัยของการเติบโต และความต้องการของไก่ สามารถคำนวณ ผสมอาหารสำเร็จรูปให้ได้สารอาหารตรงตามความต้องการของสายพันธุ์ ทำให้ไก่มีสุขภาพดีและเจริญเติบโตได้ดี โดยไม่จำเป็นต้องเสริมสารเร่งโต และใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น

"ในฟาร์มมาตรฐาน GAP ทุกฟาร์มต้องมีสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มในการควบคุมกำกับดูแลในการตรวจสอบทั้งด้านสุขภาพสัตว์ ควบคุมการใช้ยา สารเคมีและการจัดการด้านอื่นๆ ในฟาร์มด้วย ทำให้มั่นใจยืนยันได้ว่าไม่มีการใช้ฮอร์โมนและยาปฏิชีวนะอย่างผิดวัตถุประสงค์ และไม่สมเหตุสมผล เพื่อเร่งการเจริญเติบโตในการเลี้ยงไก่ไทย 100%" อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าว

นอกจากนี้ ประเทศไทยมีกฎหมายด้านความปลอดภัยอาหาร กำหนดว่าการใช้ฮอร์โมนในไก่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และห้ามการใช้สารเร่งการเจริญเติบโตในการเลี้ยงสัตว์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ 417/2528 ลงวันที่ 23 ก.ย. 29 ให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยาสำหรับสัตว์ Hexoestrol ของฮอร์โมนที่ใช้ในสัตว์ปีก หากมีการลักลอบใช้ถือว่าผิดกฎหมาย และหากนับจากวันที่ประกาศจนถึงปัจจุบัน ก็เป็นระยะเวลาเกือบ 35 ปีแล้วที่มีการใช้กฎหมายนี้ โดยผิดทั้งต่อกฎหมายของประเทศไทยและขัดต่อข้อบังคับของสหภาพยุโรป และญี่ปุ่นซึ่งเป็นกลุ่มประเทศคู่ค้าที่สำคัญในการส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกของประเทศไทย

ในขณะเดียวกัน ไทยเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ติดอันดับ 5 ของโลกต่อเนื่อง โดยมีประเทศผู้นำเข้าหลักคือ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป เนื่องจากความเชื่อมั่นของประเทศคู่ค้าต่อสินค้าปศุสัตว์ของไทยที่มีความปลอดภัยได้คุณภาพมาตรฐานสากลและระดับโลก ปลอดจากสารตกค้าง ไม่มีการใช้ฮอร์โมนในการเร่งโต และไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่สมเหตุสมผล และผิดวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง ทำให้สินค้าไก่จากไทยเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดโลก

ปัจจุบันปี 64 ล่าสุดเฉพาะสินค้าไก่และผลิตภัณฑ์มีปริมาณการส่งออกแล้วรวม 746,969 ตัน คิดเป็นมูลค่า 83,920.62 ล้านบาท (ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่แปรรูป 432,952 ตัน มูลค่า 58,345.08 ล้านบาท และเนื้อไก่แช่เย็น แช่แข็ง 314,017 ตัน มูลค่า 25,575.54 ล้านบาท)

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการยกระดับมาตรฐานอาหารปลอดภัยตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Value Chain) ตั้งแต่อาหารสัตว์ ฟาร์ม โรงฆ่า โรงแปรรูป และสถานที่จำหน่ายตามนโยบายของกระทรวงเกษตร และสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ผู้บริโภคมั่นใจอย่าเชื่อข้อมูลเท็จ และขอให้พิจารณาข้อมูลให้ชัวร์ก่อนแชร์ว่าเป็นความจริงหรือไม่

"ฝากให้ผู้บริโภคควรเลือกแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ว่าผ่านการตรวจสอบจากระบบมาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ โดยดูจากตราสัญลักษณ์ต่างๆ บนบรรจุภัณฑ์และสถานที่จำหน่าย โดยให้สังเกตสถานที่จำหน่ายที่มีตราสัญลักษณ์ "ปศุสัตว์ OK" ก่อนเลือกซื้อ เนื่องจากมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์มาจากฟาร์มมาตรฐาน GAP ผลิตจากโรงฆ่าที่ได้มาตรฐาน สถานที่จำหน่ายถูกสุขอนามัย และสามารถทำการตรวจสอบย้อนกลับได้" อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ