นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง ระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จำนวน 2 ฉบับ คือ 1) บันทึกความเข้าใจ เรื่อง การพัฒนาวิชาการด้านการวิจัยและการส่งเสริมการเกษตร ระหว่างอธิการบดี และอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร และ 2) บันทึกความเข้าใจ เรื่อง การพัฒนาวิชาการด้านวิจัย การส่งเสริมการประมง
ในส่วนของบันทึกความเข้าใจ เรื่อง การพัฒนาวิชาการด้านการวิจัยและการส่งเสริมการเกษตร มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทางวิชาการร่วมกันด้านการวิจัยและการส่งเสริมการเกษตร โดยการขยายผลโครงการวิจัยทางด้านการเกษตรที่มีศักยภาพสู่การใช้ประโยชน์ในพื้นที่การเกษตร เพื่อทำวิจัยและพัฒนาร่วมกันในหัวข้อเรื่องที่จะใช้แก้ปัญหาทางการเกษตร และเพื่อพัฒนาบุคลากรทั้งสองฝ่าย โดยแบ่งปันทรัพยากรทางด้านการวิจัย บุคลากร นักศึกษา นักวิจัย นักวิชาการ วัสดุอุปกรณ์ และข้อมูลด้านการส่งเสริมการเกษตรซึ่งกันและกัน มีกำหนดระยะเวลา 4 ปีนับตั้งแต่วันที่ลงนามในบันทึกความเข้าใจ มีขอบเขตความร่วมมือในการให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันในการพัฒนาทางวิชาการส่งเสริมการเกษตร วิชาการเกษตร และงานวิชาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เจ้าหน้าที่และเกษตรกรนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร รวมทั้งร่วมกันผลักดันและส่งเสริมการดำเนินงานในการพัฒนาด้านการวิจัยและวิชาการทั้งสองหน่วยงาน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนทรัพยากร บุคลากร และงบประมาณในลักษณะบูรณาการ เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
สำหรับบันทึกความเข้าใจ เรื่อง การพัฒนาวิชาการด้านวิจัย การส่งเสริมการประมง มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทางวิชาการร่วมกันด้านการวิจัย การส่งเสริมและพัฒนาการประมง และขยายผลโครงการวิจัยทางด้านการประมงที่มีศักยภาพสู่การใช้ประโยชน์ในพื้นที่การประมง และพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อทำวิจัยและพัฒนาร่วมกันในหัวข้อเรื่องที่จะใช้แก้ปัญหาทางการประมง และพัฒนาบุคลากรทั้งสองฝ่าย โดยแบ่งปันทรัพยากรทางด้านการวิจัย บุคลากร นักศึกษา นักวิจัย นักวิชาการ วัสดุอุปกรณ์ และข้อมูลด้านการพัฒนาการประมงซึ่งกันและกัน มีกำหนดระยะเวลา 4 ปีนับตั้งแต่วันที่ลงนามในบันทึกความเข้าใจ มีขอบเขตความร่วมมือที่จะร่วมกันดำเนินงานพัฒนาทางวิชาการด้านการวิจัย การส่งเสริมและพัฒนาด้านการประมง และงานวิชาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เจ้าหน้าที่และชาวประมง นำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ไปใช้ประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าประมง ร่วมกันผลักดันและส่งเสริมการดำเนินงานในการพัฒนาด้านการวิจัยและวิชาการทั้งสองหน่วยงาน และร่วมกันสนับสนุนทรัพยากร บุคลากร และงบประมาณในลักษณะบูรณาการ เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงสามารถแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างความรู้ ประสบการณ์ และความรู้ทางวิชาการในการแก้ปัญหาการประมง
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า การทำ MOU ร่วมกับสถาบันการศึกษาทั่วประเทศมีเป้าหมายที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับภาคเกษตรกรรมของไทย ต้องมีการยกระดับด้านการเกษตร มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ให้เต็มที่ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับงานวิจัยที่จะสามารถนำมาต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าทางการเกษตรได้
"การลงนามในวันนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของภาคการเกษตรอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งภาคเกษตรเรามีความสำคัญ หากภาคการเกษตรดี เศรษฐกิจในประเทศก็จะเข้มแข็งไปด้วย สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือในช่วงโควิด-19 ที่ภาคการเกษตรนั้นได้รับผลกระทบน้อยสุด และยังเป็นภาคที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศได้อีกด้วย ประเทศไทยจึงต้องมีการพัฒนาทั้งในเรื่องการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการส่งเสริม พัฒนา ต่อยอด และเพิ่มมูลค่าต่อไปในอนาคต" นายเฉลิมชัย กล่าว