นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความสำเร็จของโครงการ "ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย" ว่า หอการค้าไทย และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ร่วมมือกันจนเกิดเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล 25 แห่ง และกระจายไปยัง 4 มุมเมืองทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการ ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ ธนาคาร สถาบันการศึกษา รวมถึงองค์กรต่างๆ กว่า 60 หน่วยงาน
โดยขณะนี้ประชาชนในกรุงเทพฯ เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วเกินกว่า 100% เป็นการฉีดผ่านวัคซีนโครงการไทยร่วมใจกว่า 3 ล้านโดส นำมาสู่การเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว หรือ BANGKOK SANDBOX ซึ่งถือเป็นความสำคัญกับระบบเศรษฐกิจ และนำไปสู่การเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 2 เดือนสุดท้ายนี้มีความสำคัญมาก เพราะจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ในการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้า
"จะเห็นได้ว่าเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมา เริ่มมีความคึกคักทางเศรษฐกิจมากขึ้น และภาครัฐน่าจะทยอยผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น การขยายเวลาให้ดื่มสุราในสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐานจาก 3 ทุ่ม เป็นเที่ยงคืน เป็นต้น เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาเพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงเน้นย้ำ และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ให้ปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดด้วย" นายสนั่น กล่าว
นอกจากการร่วมจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนแล้ว หอการค้าไทยยังได้จัดทำโครงการ "ครัวหอการค้าไทย" เพื่อสนับสนุนอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค และเงินบริจาค เพื่อมอบแก่อาสาสมัครและบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์และแหล่งชุมชนต่าง ๆ รวมทั้งการสนับสนุนรถวัคซีนเคลื่อนที่ BMV สำหรับกลุ่มเสี่ยงในชุมชน 608 (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง และสตรีมีครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป) และผู้ที่เดินทางไม่สะดวก ได้รับวัคซีนทั่วถึงในพื้นที่ชุมชนต่างๆ อีกด้วย
นายสนั่น กล่าวว่า หอการค้าไทยมีความเป็นห่วงประชาชนที่ยังไม่ได้มารับการฉีดวัคซีน ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีปริมาณวัคซีนที่เพียงพอสำหรับทุกคน เชื่อมั่นได้ในความปลอดภัย และสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดได้ แม้ว่าศูนย์ฉีดวัคซีนของโครงการไทยร่วมใจจะปิดตัวลงแล้ว แต่ทางกรุงเทพฯ ยังคงเปิดให้บริการฉีดวัคซีนที่ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ไม่ว่าจะเป็นเข็ม 1 เข็ม 2 หรือเข็ม 3 โดยสามารถใช้บริการได้ทั้งคนไทยและต่างชาติ
"การทำงานของหอการค้าไทย ภายใต้แนวทาง Connect the Dots นี้ พิสูจน์แล้วว่าเป็นแนวทางที่ประสบความสำเร็จ โดยมีโครงการไทยร่วมใจเป็นตัวอย่างที่ดี ซึ่งจังหวัดต่างๆ สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในจังหวัดของตน โดยหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศจะร่วมกันรณรงค์ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ได้ออกมาฉีดวัคซีนให้มากที่สุด เพื่อร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันและสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาฟื้นตัว และเข้มแข็งได้อย่างยั่งยืนในอนาคต" นายสนั่น กล่าว