นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานพิธีลงนามสัญญาจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 (ไฟเซอร์) จำนวน 30 ล้านโดส สำหรับปี 2565 ระหว่าง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ น.ส.เด็บบราห์ ไซเฟิร์ท ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไฟเซอร์ประเทศไทย และอินโดไชน่า
นายอนุทิน กล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์ที่สั่งซื้อ 30 ล้านโดสนั้น จะเริ่มทยอยส่งมอบให้ประเทศไทยตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2565 เป็นต้นไป โดยจะนำมาใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นซึ่งจะฉีดได้ถึง 30 ล้านคน ยืนยันว่าวัคซีนในปี 2565 มีเพียงพอ เพราะยังมีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าอีก 60 ล้านโดส รวมถึงวัคซีนโปรตีนซับยูนิตที่ไทยกำลังพัฒนา หากผ่านการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว จะสำรองไว้ใช้อีก 20 ล้านโดสสำหรับวัคซีนชนิดโปรตีน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีวัคซีนโควิด-19 ทุกเทคโนโลยี
นอกจากนี้ ในการสั่งซื้อ 30 ล้านโดส ยังมีเงื่อนไขพิเศษให้สั่งเพิ่มได้อีก 20 ล้านโดสโดยไม่ต้องจ่ายค่ามัดจำเพิ่ม และจะมีการขอขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของไทย เพื่อใช้ฉีดเด็กอายุ 5-11 ปี เมื่อขึ้นทะเบียนแล้วจะนำเข้าวัคซีนสูตรเด็กมาฉีดเด็กอายุ 5-11 ปี ประมาณ 5 ล้านคน ในปีหน้า