นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เชิญชวนประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ครบโดส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งขณะนี้ไทยมีวัคซีนในปริมาณที่เพียงพอให้คนทั้งประเทศ และวัคซีนทุกชนิดผ่านการอนุมัติโดย องค์การอนามัยโลก(WHO) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของไทยแล้ว โดยวันที่ 27 พ.ย. - 5 ธ.ค. 64 กรมควบคุมโรคกำหนดให้เป็น "สัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีน" สู่เป้าหมาย 100 ล้านโดสเพื่อความปลอดภัย ได้ใช้ชีวิตปกติ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เดินหน้าเคลื่อนที่ฉีดวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่ของตัวเองให้ครบโดส ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนร่วมกันเดินหน้าสู่เป้าหมายฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในเกิดขึ้น พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจการท่องเที่ยว รับการเปิดประเทศต่อไป
ขณะนี้ภาพรวมแผนการบริหารจัดการและการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไทยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย การฉีดวัคซีนแบบผสมผสานหรือ "สูตรไขว้" เห็นผลอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างภูมิต้านทานป้องกันโควิด-19 เห็นผลลัพธ์ในการลดอาการติดเชื้อรุนแรงหรือป่วยหนักได้เป็นอย่างดี ทำให้อัตราการเสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่อง และเห็นผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะจำนวนผู้เสียชีวิต ที่ต่ำกว่า 100 ราย ติดต่อกันนานหลายเดือนแล้ว
โดยข้อมูลการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. - 25 พ.ย. 64 (23.25 น.) มีการฉีดวัคซีนสะสม 91,238,247 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 สะสม 47.5 ล้านราย เข็มที่ 2 สะสม 40.5 ล้านราย เข็มที่ 3 สะสม 3.2 ล้านราย
พร้อมกับฝากถึงประชาชนที่จะออกมาเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุกพื้นที่ในวันอาทิตย์นี้ ก็ขอให้ปฏิบัติตนตามมาตรการอนามัยส่วนบุคคล สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง อย่างเคร่งครัดด้วย
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ตามเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ได้ครอบคลุม 70% ภายในเดือน พ.ย.นี้ หลายเขตสุขภาพใกล้ถึงเป้าหมายแล้ว ได้กำชับให้ทุกจังหวัดเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์รณรงค์ฉีดวัคซีนระหว่างวันที่ 27 พ.ย.-5 ธ.ค.64 เนื่องในวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุขและวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งจะเริ่มพรุ่งนี้เป็นวันแรก
"ขอเชิญชวนประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนให้มารับวัคซีน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ นักเรียน ครู อสม. ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา รวมถึงแรงงานต่างด้าว เนื่องจากข้อมูลพบว่าผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเป็นผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดไม่ครบ 2 โดส ซึ่งวัคซีนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ลดอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ ขอให้หน่วยฉีดวัคซีนตรวจสอบการนำเข้าข้อมูลการฉีดวัคซีนให้ครบถ้วนเป็นปัจจุบัน เชื่อว่าการรวมพลังของบุคลากรสาธารณสุขในวาระพิเศษครั้งนี้ จะทำให้สามารถฉีดวัคซีนได้ครบ 100 ล้านโดส เพิ่มความคลุมการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ถึง 70% ได้ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน หรืออย่างช้าภายในวันที่ 5 ธันวาคมนี้" นพ.เกียรติภูมิ กล่าว