นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมการจัดสัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีนโควิด-19 เนื่องในวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุข และวันพ่อแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน - 5 ธันวาคม 2564 ซึ่งเริ่มวันนี้เป็นวันแรก ตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิดให้ถึง 100 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้
"ประเทศไทย มีเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดส หรือ 50 ล้านคน ซึ่งวันนี้เราฉีดแล้ว 92 ล้านโดส ช่วงสัปดาห์สุดท้ายนี้ พยายามฉีดให้ได้ตามเป้าหมาย เพื่อให้ครอบคลุม 70% ของประชากรในประเทศไทย เพื่อให้เราอยู่กับโรคโควิดได้อย่างปลอดภัย" ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
โดยจำนวนนี้รวมชาวต่างชาติแล้ว แต่หากพิจารณาเฉพาะคนไทย 67 ล้านคน ไม่นับกลุ่มเด็กอายุ 0-11 ปีประมาณ 10 ล้านคน ที่ฉีดวัคซีนไม่ได้จะเหลือประมาณ 57 ล้านคน ได้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 48 ล้านคน เป็นเข็ม 1 ประมาณ 71% และเข็ม 2 ประมาณ 61% แต่จะจัดฉีดต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี เนื่องจากวัคซีนมีมากพอถึง 140 ล้านโดส และมีครบทุกเทคโนโลยี ทั้งเชื้อตาย, ไวรัลเวคเตอร์ และ mRNA
สำหรับปี 2565 กระทรวงสาธารณสุขเตรียมวัคซีนเข็ม 3 และ 4 โดยตกลงเซ็นสัญญา 120 ล้านโดส เนื่องจากอาจต้องฉีดกระตุ้นจำนวน 1-2 เข็ม ซึ่งวัคซีนจะทยอยส่งตั้งแต่ต้นปี ที่ผ่านมาประเทศไทยยังไม่มีการระบาดรุนแรง เนื่องจากนักวิชาการแนะนำให้เริ่มฉีดเข็ม 3 แล้ว ส่วนการติดเชื้อรายวันเป็นไปตามการคาดการณ์ เดือนธันวาคมคาดว่าจะต่ำกว่า 5 พันรายต่อวัน และผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 30-40 รายต่อวัน ซึ่งระบบสาธารณสุขไทยรองรับได้
"กระทรวงสาธารณสุขไม่ต้องการให้กลับไปสู่การปิดประเทศอีก ดังนั้นเราจะป้องกันไม่ให้เกิดระบาดใหญ่ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ประชาชนขอให้ช่วยกันเชิญชวนคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนให้มาฉีด เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและสังคม ลดการแพร่กระจายเชื้อ และใช้การป้องกันตนเองขั้นสูงสุด หากมีความเสี่ยงให้ตรวจด้วย ATK ซึ่งขณะนี้มีราคาถูกลงแล้ว ส่วนสถานบริการต่างๆ ต้องเข้มมาตรการ COVID Free Setting โดยเฉพาะร้านอาหารที่ดื่มสุราได้...ถ้าทำตามนี้จะคุมการระบาดได้ เดือนธันวาคมเราจะได้ฉลองคริสต์มาส เคาท์ดาวน์ และเข้าสู่ปีใหม่ด้วย New Normal" ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าว