กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ในห้วงวันที่ 23 พ.ย.-1 ธ.ค. 64 ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ พัทลุง และสงขลา รวม 43 อำเภอ 178 ตำบล 766 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 21,109 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 4 จังหวัด 23 อำเภอ 100 ตำบล 436 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 14,261 ครัวเรือน ดังนี้
- ชุมพร มีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าตะโก อำเภอสวี และอำเภอหลังสวน รวม 19 ตำบล 84 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,900 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ อำเภอเคียนซา อำเภอชัยบุรี อำเภอพุนพิน อำเภอบ้านนาสาร และอำเภอบ้านนาเดิม รวม 36 ตำบล 201 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,002 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาบอน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอชะอวด อำเภอทุ่งสง อำเภอบางขัน อำเภอฉวาง อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอนบพิตำ และอำเภอท่าศาลา รวม 39 ตำบล 143 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,241 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- สงขลา น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอระโนด และอำเภอนาหม่อม รวม 6 ตำบล 8 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 118 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.-1 ธ.ค.64 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม รวม 11 อำเภอ 94 ตำบล 730 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,484 ครัวเรือน โดยภาพรวมระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ดังนี้
- อุบลราชธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารินชำราบ รวม 4 ตำบล 22 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 306 ครัวเรือน
- สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า รวม 28 ตำบล 240 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 22,015 ครัวเรือน
- พระนครศรีอยุธยา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ และอำเภอเสนา รวม 16 ตำบล 133 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,735 ครัวเรือน
- นครปฐม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอกำแพงแสน และอำเภอดอนตูม รวม 46 ตำบล 335 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,428 ครัวเรือน
สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน ปภ.ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ "ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784" โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง