นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า โควิด-19 สายพันธ์ "โอไมครอน" ตอนนี้ระบาดกระจายไปทั่วโลกแล้ว ทุกทวีป และขยายตัวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงควรทบทวนนโยบายเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ควรขันน็อตการตรวจคัดกรองโรค การกักตัว ระบบติดตามตัว รวมถึงเร่งขยายจุดบริการตรวจ RT-PCR ของประเทศ เตรียมรับมือความต้องการที่จะมากขึ้นยามที่เกิดการระบาดที่ต้องเฝ้าระวัง ไม่ใช่แค่จากทวีปแอฟริกาอีกต่อไป แต่จำเป็นต้องเฝ้าระวังทุกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่มีการพบเคส
อีกทั้ง ควรยืนอยู่บนความไม่ประมาท มองเป็น worst case scenario ไว้ จะได้เตรียมรับมืออย่างเข้มงวดเข้มแข็ง ประชาชนจะได้ตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โอกาสมีพฤติกรรมการป้องกันก็จะมากขึ้น โอกาสรอดและรับมือได้จะมากกว่า
ข้อมูลจากการวิจัยเกี่ยวกับโอไมครอน สามารถติดเชื้อในคนที่เคยมีประวัติติดเชื้อโรคโควิด-19 มาก่อน ได้มากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 2.4 เท่า (ช่วงความเชื่อมั่น 1.88-3.11 เท่า)
การวิจัยของ Pulliam JRC และคณะ จากแอฟริกาใต้ ศึกษาพบว่าตั้งแต่มีนาคม 63 จนถึงพฤศจิกายน 64 มีคนที่ติดเชื้อซ้ำกว่า 35,000 คน ตั้งแต่ระลอกสายพันธุ์ดั้งเดิมจากอู่ฮั่น มาเป็นสายพันธุ์เบตา เดลตา และมาถึงโอไมครอนในปัจจุบัน หากวิเคราะห์อัตราการติดเชื้อซ้ำ (reinfection) ตามสายพันธุ์ จะพบว่าสายพันธุ์เบตากับเดลตานั้น มีอัตราการติดเชื้อซ้ำที่น้อยกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม แต่สำหรับโอไมครอนกลับพบว่ามีการติดเชื้อซ้ำมากขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งอาจบอกให้เราเข้าใจได้ว่า ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากการที่เคยติดเชื้อโรคโควิด-19 มาก่อนนั้น น่าจะไม่สามารถป้องกันโอไมครอนได้
ประโยชน์ที่ได้จากข้อมูลนี้ คือ คนไทยกว่าสองล้านคนที่เคยติดเชื้อมาก่อน ก็ยังถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนนี้ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงต้องตระหนัก และป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดกันทุกคน